เที่ยวคนเดียว+นั่งรถไฟลอยน้ำ+ทุ่งดอกทานตะวัน+เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
นั่งรถไฟเที่ยวคนเดียวเปนครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ รู้แต่ครั้งนี้อะ มันตื่นเต้นหน่อยๆ เพราะขึ้นรถไฟครั้งแรกในรอบ 3 ปี ปิดโควิทมาตั้งนาน เกือบลืมไปแล้วว่าเที่ยวยังไง เพิ่งรู้ว่า เราสามารถจองตั๋วรถไฟออนไลน์ได้แล้วนะ แกร๊ สะดวกกว่าเดิมเยอะเลย
ทริปนี้ เราจะนั่งรถไฟลอยน้ำ ปลายทางไปที่เขื่อนป่าสัก เป็นแบบ ONE DAY TRIP ไปเช้า-เย็นกลับ แต่เราจะแว๊ปไปดูทุ่งดอกทานตะวันด้วย เพราะมันจะมีแค่ช่วงฤดูกาลนี้เท่านั้น ต้องไปเติมความสดชื่น สดใส ไปถ่ายรูปกับเค้าหน่อยแหละ ก่อนที่ดอกจะร่วงโรยไป และก่อนที่ใจฉันจะเฉาไปมากกว่านี้ จากการอยู่บ้านนานเกิน 555
รถไฟขบวนท่องเที่ยวนี้ เป็นโครงการของการรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ละ โดยจะวิ่งเฉพาะวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มีเส้นทาง กรุงเทพ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ (จ.ลพบุรี) / เส้นทาง กรุงเทพ – น้ำตกไทรโยคน้อย (จ.กาญจนบุรี) / เส้นทาง กรุงเทพ – หาดสวนสนประดิพัทธิ์ (หัวหิน)
เส้นทางที่เราเลือกคือ เส้นทางท่องเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ค่ะ
เส้นทางนี้ วิ่งแค่ 3 เดือนต่อปีเท่านั้น คือ พฤศจิกา ธันวา มกรา เฉพาะวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ Exclusive มากๆ เลย อันดับแรกต้องจองตั๋วให้ทันก่อน เพราะเค้าว่ามันเต็มเร็ว จองตั๋วออนไลน์ได้ที่ https://dticket.railway.co.th/ ราคา ตู้พัดลม 290 บ. / ตู้แอร์ 590 บ. รวมไปกลับแล้ว
เราอะ ลองเข้าเว็บการรถไฟกดจองดูเล่นๆ ตอน 5 ทุ่มวันเสาร์ เห็นมันว่างปุ๊ป ก็จองปั๊ป โชคดีมากๆ มันว่างพอดีอะ เดินทางพรุ่งนี้ 6 โมงเช้าจ้า ปุปปับทัวร์จริงๆ
มาๆ จะเล่าให้ฟัง…
ดูรีวิวแบบ VDO ได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=MP2DA1SDpJs
สถานีรถไฟบางซื่อ
เราออกจากบ้าน 6 โมงเช้า ไปสถานีรถไฟที่ใกล้บ้านเราสุด ก็คือ สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อ
ขึ้นรถไฟมา จะมีโบชัวร์ที่ทางรถไฟแจกให้ทุกๆ คน เป็นแพลนการเดินทางทั้งหมด ดังนี้
- 6.00 ออกจากสถานีหัวลำโพ
- 6.23 สถานีบางซื่อ
- 9.45 รถไฟลอยน้ำ (จอดให้ถ่าย 20 นาที)
- 10.30 สถานีโคกสลุง (จอดให้ชอปปิ้งของฝาก 20 นาที)
- 11.00 เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
**มีเวลาให้เที่ยว 4 ชั่วโมงเต็ม
- 15.30 รถไฟออกจากสถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
- 18.28 ถึงสถานีบางซื่อ
- 18.50 ถึงสถานีกรุงเทพ หัวลำโพง
***จุดขึ้นลงสถานีระหว่างทาง คือ สามเสน บางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี แก่งคอย
ขึ้นรถไฟ
รถไฟตู้แอร์ที่เรานั่งเป็นตู้ใหม่ แต่เป็นมือสองนะ เหมือนเพิ่งได้มาจากญี่ปุ่น ยังมีสติ๊กเกอร์ภาษาญี่ปุ่นติดอยู่เลย เราเองก็เพิ่งเคยเห็นตู้แบบนี้ที่นี่เหมือนกัน เป็นที่นั่งยาวๆ ถ้าได้นอนยาวก็คงจะสบาย หันหน้าเข้าหากัน มี 2 ชั้น ตามภาพเลย
อีกฝั่งที่ไม่ใช่ที่นั่ง ก็เป็นทางเดิน ที่มีหน้าต่างบานใหญ่ไว้มองวิวข้างนอก มีเก้าอี้พักได้เล็กๆ เสริมเผื่ออยากไปนั่งดูวิวอีกฝั่งนึงบ้าง แบบนี้มีเฉพาะตู้แอร์เท่านั้นนะคะ ส่วนตู้พัดลม เป็นแบบรถไฟชั้น 3 ธรรมดาเลย แบบที่เราเคยเห็นกันมาแล้ว
ทางรถไฟลอยน้ำ
จุดแรกที่จอดให้ลงไป คือ กลางน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กลางน้ำจริงๆ ทุกคน รอบข้างซ้ายขวาเป็นน้ำหมด มีแค่รถไฟสายนี้ที่จะจอดให้ลงไปถ่ายกลางน้ำได้แบบนี้
เราว่าถ้าได้บินโดรน น่าจะสวย นี่เอาโดรนมานะ แต่นางดันมาเสียพอดี เซ็งเลย
อะ ถ้าสงสัยว่าไปเที่ยวคนเดียว มีรูปเดี่ยวได้ยังไง กดรูปถัดไปค่ะ
มิตรภาพบนรถไฟ
ต้องขอบคุณพี่โอมกับพี่แก้วด้วย พี่ที่เพิ่งเจอกันบนรถไฟ บังเอิญนั่งตู้เดียวกัน เป็นคู่รักที่กำลังหนีลูกมาเดท 555 คุยกันไปมา ได้ถ่ายรูปให้เราทั้งทริปเลย เป็นมิตรภาพบนรถไฟที่น่ารักมากๆ หวังว่าจะได้เจอกันอีกนะคะ :)
บ้านโคกสลุง
จุดจอดถัดไปคือ สถานีโคกสลุง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่จะมีแม่ค้าพ่อค้าตั้งโต๊ะขายของฝากสำหรับนักท่องเที่ยวกัน มีตั้งแต่ขนมสายไหม ไข่นกกระทา ปลาร้าแจ่วบอง ผักท้องถิ่น ไปจนถึง เครื่องดื่มต่างชาติอย่างโซจู ชิมฟรี 555
สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
สถานีปลายทางของเราคือ สถานีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งรถไฟจะจอดที่นี่ ให้เราลงเที่ยวทั้งหมด 4 ชั่วโมงเต็ม เชิญพักผ่อนตามอัธยาศัยได้เลย
(ขออนุญาติลงภาพพี่โอมพี่แก้วนะคะ คิดถึงๆ)
เขื่อนป่าสักมีกิจกรรมที่น่าสนใจอะไรบ้าง?
1.อยู่เที่ยวในตัวเขื่อนป่าสัก นั่งรถตัวหนอน ปั่นจักรยาน ปูเสื่อปิกนิกกินส้มตำ นวดแผนโบราณ
2.นั่งรถตู้เที่ยวระแวกเขื่อน เช่น ทุ่งดอกทานตะวัน ไร่ทรัพย์ประยูร บ้านกล้วยไข่คาเฟ่ (60บ.)
3.เหมารถตู้ Pravate Tour เที่ยวตามใจได้เลย (ประมาณ 1500 บาทต่อคัน)
เราเลือกทริปรถตู้ ไปรูททุ่งดอกทานตะวัน ไร่ ทรัพยฺสมบูรณ์ และคาเฟ่ค่ะ ราคาคนละ 60 บาท ลงรถไฟมาก็รีบไปซื้อตั๋วรถตู้เลย เพราะกลัวดอกทานตะวันจะคอตกก่อน
ทุ่งดอกทานตะวัน
ทุ่งดอกทานตะวันที่ลพบุรี บานเป็นฤดูกาล ไม่ได้มีทั้งปีนะคะ จะมีช่วง พ.ย. / ธ.ค. / ม.ค. ก็จะเริ่มโรยๆแล้ว จะมาถ่ายก็เตรียมกล้องถ่ายรูป เตรียมพร๊อพ เตรียมผิวมารับแดด ด้วยครีมกันแดดดีๆ หน่อยเนอะ
แนะนำให้มาช่วงเช้าๆ เพราะดอกจะชูคอรับแสงอาทิตย์อ่อนๆ พอสายๆ คอจะตกลงเรื่อยๆ
เรามาทริปกับรถไฟนี้ถึงช่วงสายๆพอดี คอกำลังตกเลย 555 แต่ก็ถ่ายออกมาสวยอยู่
กับดอกทานตะวันอะ ถ่ายยังไงก็รู้สึกสดชื่น สดใส แม้จะไม่ได้นอนมาก็ตาม 555
น้องๆ คอเริ่มตกกันแล้ว เราเองก็คอตกเหมือนกัน ร้อนมากแม่ มาถึงปุ๊ปให้รีบถ่ายเลย
ไร่ทองสมบูรณ์
พอแดดเริ่มร้อน ดอกคอตก เราก็นั่งรถตู้ไปต่อสเตชั่นถัดไป อีกจุดที่รถตู้จะพาแวะก็คือ ไร่ทองสมบูรณ์ ที่นี่มีสวนเฟิร์นยักษ์ สวนพันธ์ไม้ ร่มรื่นมากๆ อากาศดี
หลังจากนั้นก็กลับไปที่เขื่อน ทานอาหารกลางวัน แล้วก็เดินแถวนั้นๆ มีรถรางตัวหนอนให้นั่งไปชมสันเขื่อนด้วย คนละ 30 บาท แต่เราเลือกนั่งเล่นชิลๆ ริมน้ำแทน
นั่งรถไฟกลับบ้าน
ถึงเวลากลับแล้ว เวลาบ่าย 3 ครึ่ง รถไฟประกาศเรียกขึ้นรถ กลับไปนั่งตู้เดิม ที่นั่งเดิมด้วยนะ ไฮไลท์ของรถไฟขากลับคือ เราจะได้นั่งรถไฟชมพระอาทิตย์พอดี แสงส่องเข้ามาในตู้ สวยมากๆ
แถมภาพบนรถไฟอีกซักภาพ ขากลับนอนยาวตลอดทาง มีที่นอนชั้น 2 ด้วยนะ
และนี่ ก็เป็นทริปนั่งรถไฟเที่ยวคนเดียว ไปเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ แต่ตั้งใจไปดูดอกทานตะวัน ในแบบของเรา
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าจ้าา
ดูรีวิวแบบ VDO ได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=MP2DA1SDpJs
บ๊ายบาย
ต้นอ้อ
IG : https://www.instagram.com/highondreams/
WEBSITE : www.highondreams.com
