ไร่เลย์ กระบี่ Railay Krabi

พาเที่ยว “ไร่เลย์” ในมุมที่ไม่ค่อยมีใครได้เห็น | HIDDEN SPOT RAILAY, KRABI

“ไร่เลย์ ไม่ใช่ไร่มันฝรั่ง แต่มีฝรั่งเยอะมาก”

หลายคนที่เคยมาเที่ยวกระบี่ อาจจะรู้จักชื่อไร่เลย์กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักเนี่ย ไร่เลย์ ไม่ใช่ไร่ ไม่ใช่สวนมันฝรั่งแต่อย่างได
ถึงแม้ครั้งแรกที่เราได้ยิน จะคิดว่าใช่ก็เถอะ หรือจะเป็น ไร่+ทะเล ก็ไม่รู้หละ แต่มันคือชื่อหาดไร่เลย์ อ่าวไร่เลย์ หรือแหลมไร่เลย์ แล้วแต่จะเรียกกันไป ที่แน่ๆ ไร่เลย์ ไม่ใช่เกาะ
.

ไร่เลย์ตั้งอยู่ระหว่างอ่าวนาง และเมืองกระบี่ มีชื่อเสียงด้านความสวยงามของภูเขาหินปูนสูงชัน ชาวต่างชาตินิยมมาปีนผากัน ที่นี่ไม่มีรถยนต์เข้าถึงนะจ๊ะ ต้องนั่งเรือหางยาวเข้ามา จากอ่าวนาง ประมาณ 20 นาที แค่การเดินทางเข้ามาก็น่าตื่นเต้นแล้ว มันรู้สึกเหมือน Hidden Village หมู่บ้านแห่งความลับ เดินทางมายากๆ นี่ชอบนัก

.
วันนี้เรามีที่ลับๆ ในไร่เลย์มาบอกเล่าให้ฟัง ลับในลับอีกทีนึง อาจจะไม่ใช่ที่ที่ทุกคนสามารถไปได้ เพราะปีนป่ายหนักมาก และบางที่ก็อยู่ลึก เดินเหนื่อยซะจนอยากถอดใจ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะเรายังมีคาเฟ่ลับ ปิดท้าย ที่ทำให้กิจกรรม Adventure นี้ไม่โหดจนเกินไป มีเวลาให้ผ่อนคลายกันบ้างตามภาษาผู้หญิงรักลุย แต่แอบมีมุมอยากเซลฟี่กับคาเฟ่เก๋ๆ ตามไปดูกันเด้อ
.
หลังจากโพสนี้ สถานที่เหล่านี้มันคงไม่ลับแล้วหละ ฮ่าๆ

มีเพื่อนฝรั่งที่ Backpack มาด้วยกันเคยถามว่า อากาศประเทศไทยมันร้อนๆชื้นๆ เหนียวๆ แต่งหน้าแล้วหน้างี้มันเยิ้มเลย แต่ทำไมยูไม่มันอะ อะอะ ไหนๆก็มาเรื่องความลับแล้ว

และนี่คือความลับของชะนีไทยค่ะ

ทริปนี้เราพกแป้งพัฟศรีจันทร์มาด้วย เป็นแป้งพัฟโปร่งแสง คุมมัน เอาไว้เติมระหว่างวัน ถ่ายรูปออกมาแล้วไม่โทรม ถูกคิดค้นมาแล้วให้เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทย และชะนีไทยทุกคน ที่ฝรั่งบางคนก็เพิ่งรู้

ขออนุญาติโฆษณานะคะ ฮ่าๆๆ

ด้วยความที่มันไม่ผสมรองพื้น ทำให้ไม่เป็นคราบเมื่อผสมกับความมันบนใบหน้า (หรือคราบจากเครื่องสำอางที่แต่งมาตั้งแต่ตอนเช้า) มีเนื้อเนียนบางเบา คุมมันได้ ไม่มีสี ทำให้ดูไม่โบ๊ะ ไม่ว่าจะมีสีผิวแบบไหนก็ใช้ได้จ้า สะดวกดี

ถามว่าพกตลับแป้งมาลุยด้วยหรอ เอ้า ก็ชั้นรักการถ่ายรูป และไม่ชอบความหน้ามัน จะผิดอะไรที่พกแป้งมาด้วยหละคะ

ละคือถ้าใครลืมพกแป้งคุมมันมา เป็นมะมาทริปทีไรจะลืมนู่นลืมนี่ตลอด ก็เดินเข้า 7-Eleven ซื้อใหม่ไปเลยง่ายๆราคาแบบจ่ายไม่เสียดายแป้งพัฟโปร่งแสงศรีจันทร์ตลับเล็กแค่ 159 บาทเอง แต่พอซื้อใหม่ทีไรก็เจอว่าเราเอามาแล้วนี่หว่า 555 นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนเราถึงมีแป้งซ้ำๆกันหลายตลับไง

การเดินทางมาไร่เลย์

ไร่เลย์อยู่จังหวัดกระบี่ อยู่บริเวณแหลมที่ขั้นระหว่างตัวเมืองกระบี่และอ่าวนาง ถ้ามาจากสนามบิน ก็ขึ้นรถ Airport Bus ตรงมาได้เลย (150บาท) ถ้าเลือกพักอยู่ในไร่เลย์ ไม่แนะนำให้เช่ารถนะ เพราะในนั้นรถเข้าไม่ถึง ต้องนั่งเรือไปเท่านั้น ของเราเลือกพักในอ่าวนาง แล้ว ONE DAY TRIP ไปกลับไร่เลย์ค่ะ

1.ซื้อตั๋วขึ้นเรือหางยาวที่ท่าเรืออ่าวนาง
มันมีศาลาขายตั๋วเขียนว่า ชมรมผู้ประกอบการเรือหางยาวอ่าวนาง ราคาเที่ยวละ 100 บาท หรือไปกลับ 150 บาทต่อคน รอคนเต็มเรือ ประมาณ 5-8 คน เรือถึงจะออก โดยเรือจะจอด 3 จุด คือ หาดต้นไทร หาดไร่เลย์ตะวันตก และหาดถ้ำพระนาง แจ้งคนขับเรือด้วยว่าจะไปลง ไหน เรือหมด 6 โมงเย็นเด้อ (หลัง 6 โมงเย็น คิดเงินเพิ่ม)

2.ไปขึ้นเรือหางยาวที่ท่าเรืออ่าวน้ำเมา
ที่นี่จะถูกกว่า ราคาเที่ยวละ 50 บาทต่อคน มันจะถูกกว่า เหมาะกับคนมีรถส่วนตัว ก็ขับไปตรงที่มันราคาถูกกว่าสิเนอะ

3.Package Tour
อันนี้ก็มีทัวร์หลายๆเจ้า พาไปไร่เลย์ เข้าถ้ำพระนาง เกาะปอดะ ทัวร์4 เกาะ มันได้ไปทั่วก็จริง แต่จะมีเวลาจำกัด สำรวจได้ไม่ทั่วไร่เลย์

ปะ ตามเราขึ้นเรือมาเลยจร้าาา

เอาล่ะ พอรู้วิธีการเดินทางคร่าวๆแล้วเนอะ ส่วนสถานที่ที่เราลิสมานี้ ไม่ได้บอกว่าให้ไปทั้งหมดก็ได้ มันเหนื่อย มันไปยาก 555 อยู่แค่หน้าหาดไร่เลย์ ชมถ้ำพระนาง พายเรือคายัค ก็สวยมากๆแล้วเหมือนกัน ภาพนี้คือส่วนหนึ่งของทางเดินในไร่เลย์ สวยใช่มั้ยหละ

1. หาดถ้ำพระนาง (Pra-nang cave Beach)

เรามาเริ่มกันที่หาดพระนาง เป็นจุดลงเรือแรกของเรา น้ำใสแจ๋วว ถ้ามาตอนเช้าๆ จะสวยมากเพราะทัวร์ยังไม่ลง จะเห็นฝรั่งนั่งนอนอาบแดดกันแบบไม่กลัวมะเร็งกันเลย แต่พอทัวร์ลง น้ำทะเลขึ้น หาดนี้ก็แทบไม่มีที่เดินกันเลย

ความลับของหาดถ้ำพระนางเกี่ยวกับหญิงสาวผู้ไม่เคยสมหวัง ชื่อว่า “นาง” นางมีรักกับชายที่ชื่อบุญ และกำลังจะเแต่งงานกัน แต่ทางครอบครัวของนางเคยตกลงกับท่าพญานาคไว้ก่อนนางเกิดว่า จะให้แต่งงานกับลูกของพญานาค เมื่อพญานาครู้ข่าวเข้าก็โกรธแค้น ทำไมไม่ทำตามสัญญา จึงจำแลงกายเป็นมนุษย์เข้าอาละวาดทำลายงานแต่งแย่งชิงตัวนาง ฤๅษีที่บำเพ็ญตบะอยู่ใกล้เคียง ก็ออกมาห้ามปรามแต่ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายฤๅษีจึงสาปทุกอย่างให้กลายเป็นหิน เรือนหอกลายเป็น ‘ถ้ำพระนาง’ พญานาคกลายเป็นเขาหงอนนาค หางนาค จนถึงทุกวันนี้

2. Railay Rock Climbing

นอกจากน้ำทะเลที่ทำให้ประทับใจมากๆแล้ว หันหลังให้น้ำทะเล จะเห็นหน้าผาหินปูนสูงชัน สูงแบบแหงนคอขึ้นไปยังไม่เห็นยอดเลย ตรงนี้แหละที่เค้ามาทำกิจกรรมปีนหน้าผากัน เราก็ลองซะหนึ่งรอบ เห็นสูงๆ แบบนี้ นี่ยังแค่เลเวลง่ายๆเองนะ เป็นเลเวลสำหรับคนที่ไม่เคยปีนมาก่อน แต่ใจถึง

ตอนเรามองคนอื่นปีน มันจะดูสูงมาก แต่พอเราได้ปีนเองแล้ว จะไม่รู้สึกว่ามันน่ากลัวเลย ปีนๆ ไต่ๆขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ถ้ามองลงมาพื้นเมื่อไหร่น่ะอีกเรื่อง 555 จิร้องไห้ ไม่กล้าลง เอาจริงๆ ตอนเป็นคนดูอยู่ข้างล่างเฉยๆก็เพลินดี

หากสนใจกิจกรรมปีนผาพร้อมอุปกรณ์ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่นี่
https://www.facebook.com/realrocksclimbing/
www.realrocksclimbing.com

3.จุดชมวิวไร่เลย์ Railay Viewpoint

เดินจากจุดปีนผาหน้าหาดอ่าวถ้ำพระนาง เข้ามาอีกหน่อยนึง จะเจอทางขึ้นจุดชมวิวอ่าวไร่เลย์ที่นี่จะสามารถมองเห็นทั้ง 2 หาด คือไร่เลย์ฝั่งตะวันออก และตะวันตก และวิวภูเขาหินปูนไล่ระดับกันไป มันจะวิวคล้ายๆ กับจุดชมวิวเกาะพีพีดอน

แต่ความพิเศษของที่นี่คือการเดินขึ้นมา มันยากมากกกกก เห็นทางขึ้นแล้วตกใจว่านี่หรือคือทางไปจุดชมวิวหลักในไร่เลย์ เราจะต้องเกาะเชือกปีนขึ้นไปประมาณกี่เมตรไม่แน่ใจ เพราะองศามันชันแบบตั้งฉากกับพื้น เอาเป็นว่า ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง จะถึงทางแยก เลี้ยวซ้ายไปจุดชมวิว เลี้ยวขวาไปลากูน การเดินขึ้นทางนี้มันจะช้าเพราะขึ้นลงทางเดียวกัน ต้องรอให้คนสวนทางไปหมดก่อนถึงปีนต่อได้

สิ่งที่ควรเตรียมตัวคือ รองเท้าผ้าใบ เสื้อผ้าที่ยอมให้เปื้อนได้ น้ำเปล่าสักขวด เพื่อนสักคนสองคน สุดท้ายคือร่างกายและจิตใจที่แข็งแรง นี่ไม่ใช่การเดินป่า แต่นี่คือการปีนป่ายค่ะ แต่มันก็คุ้มนะ ที่ได้ขึ้นมาดู แค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว

นี่คือทางขึ้น แผ่นฟ้าๆที่ติดอยู่บนต้นไม้นั่นคือป้ายบอกทางไป Viewpiont & Lagoon นี่ถ้าไม่เห็นคนกำลังปีนขึ้นไป เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันคือทางขึ้นไปชมวิว เราต้องจับเชือกปีนขึ้นไปตั้งแต่ทางขึ้นกันเลย เค้ามีข้อห้ามอยู่คือห้ามปีนขึ้นตอนฝนตก และหลังพระอาทิตย์ตกดิน เพราะอาจเกิดอันตรายได้

4. Hidden Lagoon

จุดถัดมาคือลากูน หรือทะเลปิด มันคือแอ่งน้ำทะเลในหุบเขา อธิบายให้เห็นภาพอีกนิด ลองนึกถึงปล่องภูเขาไฟที่มีรูตรงกลาง แล้วเราก็ปีนเข้ามาอยู่ในรูนั้นแหละ อะเมซิ่งเนอะ นี่คือน้ำทะเลที่ไม่ได้อยู่ในทะเล เห็นสีนมๆ คือคนลงไปว่ายน้ำจนขุ่นหมดละ จริงๆใสเย็นเห็นตัวปลาเลยแหละ

ตอนแรกคิดว่าทางขึ้นไปจุดชมวิวว่ายากแล้ว แต่บลูลากูนยากกว่า โหดกว่าหลายเท่าตัว เพราะมันมีลอดแง่งหิน แล้วโหนตัวลงมาด้วย ใช้กำลังแขนเยอะ และอันตราย ถ้าร่างกายไม่พร้อมก็ไม่แนะนำค่ะ มาดูภาพของเราแทนก็ได้ เราได้ฝ่าฟันความยากลำบางนั้นมาให้แล้วจ้าาา เป็นอีกที่ที่สวยนะ ประทับใจมากๆ แต่จะไม่ไปอีกแล้ว 555


ความพิเศษอีกอย่างนึงคือ พอเราว่ายไปอยู่กลางสระแล้วตะโกนออกมาดังๆ
เสียงมันจะสะท้อนก้องหุบเขาได้ยินเสียงตัวเองซ้ำหลายรอบเลย

ลากูนนี้มีช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงเหมือนน้ำทะเลค่ะ ถ้ามาเวลาน้ำขึ้น น้ำจะเขียวใส ถ้ามาตอนน้ำลง มันจะแห้งเหือดเหลือแต่โคลน เพราะฉะนั้นก่อนตัดสืนใจปีนขึ้นมา ก็ดูระดับน้ำทะเลข้างนอกก่อนเนอะ น้ำเยอะๆจะสวย


นี่คือทางมาค่ะ ไปกลับทางเดิมนะ โหนตัวลงมา แล้วก็ต้องปีนกลับขึ้นไป เห็นว่าเมื่อก่อนมีบันไดด้วย
ไม่รู้ตอนนี้หายไปไหนแล้ว

5.Hidden Cave

นี่เป็นอีกหนึ่งที่ลับของเราที่เราชอบที่สุดในไร่เลย์เลย เพราะวิวมุมสูงที่มองลอดช่องเขาออกไปข้างนอก เห็นสันทราย ชายหาด คนอาบแดด น้ำทะเล ภูเขา คนว่ายน้ำ นี่ถ้ามีเต่ามาว่ายแถวๆนี้ก็มองเห็นอะ มันอะเมซิ่งมากๆ ขึ้นมาบนนี้มีหลายช่องให้ส่องนะ ช่องเล็กช่องใหญ่ คนละมุมก็คนละวิว เหมือนกรอบรูปที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เรียกว่าเราจะได้เห็นทั้งฝั่งอ่าวพระนาง และฝั่งไร่เลย์ตะวันตกเลย

แน่นอนว่าการเดินทางมานี้ก็ไม่ใช่ง่ายๆเหมือนกัน


จากฝั่งถ้ำพระนางเดินผ่านหาดมาอีกฝั่งนึง จะเจอกลุ่มนักปีนเขาระหว่างทางประปราย ทั้งที่อยู่บนดิน และอยู่บนฟ้า และถัดมาเป็นโถงทางเข้าถ้ำใหญ่มากๆ ปีนๆไต่ๆอีกแล้ว ดินในถ้ำลื่นมาก เดินสองขาแทบไม่ได้ ต้องใช้ 4 เท้าเดิน ข้างในมืด มีบรรไดบางจุด ถ้ามีไฟฉายติดหัวก็ดี

เรามากับทีม Railay Rock Climbing ที่ไปปีนหน้าถ้ำพระนางด้วยกันเมื่อเช้า และนี่เป็นส่วนของช่วงบ่าย เราจะไม่ปีนกันแล้ว เพราะถ้าขึ้นมาถึงจุดนี้ได้ ทางลงก็คือโรยตัวลงไปยังพื้นดิน เช่นนี้แล

เชื่อแล้วว่าทำไมไร่เลย์ถึงติดหนึ่งในจุดปีนผาที่สวยที่สุดของโลก โคตรสวยเลยจริงๆ อะดีลนาลีนหลั่งไหล ต้องโรยตัวลงไปแล้วเด้อออ

6. ค่างแว่น Dusky Langur

เราขอนับ ค่างแว่น เป็นหนึ่งในความลับของไร่เลย์ด้วยเลยแล้วกัน เราสามารถเจอได้ง่ายๆในป่าระหว่างทางเดินไปถ้ำเลย ค่างแว่นมีลักษณะคล้ายลิง แต่มีตัวสีเทา มีวงสีขาวรอบดวงตาเหมือนแว่น ขี้อาย ไม่ดื้อเหมือนลิงทั่วไป ก็เลยน่าร๊ากกก เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองในประเทศไทยด้วย หาดูไม่ได้ง่ายๆเด้อ ในไร่เลย์ก็มีลิงเยอะ ชะนีก็มี ระวังสับสนนะ

7. ทิวเลบาร์ Tew lay Bar Cafe

เหนื่อยมาเยอะแล้ว ย้ายมาสายชิล พักบ้างอะไรบ้าง มาที่บาร์ที่น่านั่งที่สุดในไร่เลย์กันค่ะ ที่นี่คือ “ทิวเล บาร์” เป็นบาร์สุดท้ายของหาดไร่เลย์ตะวันออก สุดท้ายจริงๆนะ เดินมาเกือบ 1 กิโล เดินมาเรื่อยๆจนเจอร้าน The Last Bar อย่าหลงเชื่อชื่อร้านค่ะ ให้เดินต่ออีกสักพักแล้วจะเจอ
ทิวเลอยู่สุดทางเลย เดินต่อไม่ได้แล้ว มันลับเพราะไม่ค่อยมีใครเดินมาถึงนี่แหละ ท้อใจก่อน เหนื่อย บรรยากาศดีๆแบบนี้ จิบนิดจิบหน่อย แล้วให้ลมทะเลพัดมาโดนหน้าเบาๆ ก่อนจะหลับไปบนหมอนขิดสไตล์ไทย เราชอบความชิลของที่นี่อะ มีร่มไม้ร่มเย็น มีเปลให้นอน

facebook : https://www.facebook.com/pages/Tew-Lay-Bar/745986602096659

ละมีแลนด์มาร์คอยู่ที่ก้านต้นไม้ที่ยื่นลงไปในทะเล ที่เราสามารถข้าไปนั่งได้ พอดีเรามาตอนช่วงน้ำลงพอดี ตรงนี้เลยไม่เห็นน้ำทะเลค่ะ 555 ลองนึกภาพด้านล่างที่นั่นเป็นน้ำทะเลสีฟ้าสิ สวยงามแน่ๆ

การเดินเท้ามาที่นี่มันเหนื่อยและเผาผลาญพลังงานมากจริงๆ อยากแนะนำให้ทานอะไรกันก่อนเข้ามาด้วย ไม่งั้นจะเป็นแบบเรา ขาเปรี้ย เดินไม่ไหวแล้วเพราะแอดเวนเจอร์กันมาทั้งวันจนไม่มีแรง เลยหวังพึ่งร้านเย็นๆ บรรยากาศดีๆ แต่ปรากฏว่า ที่นี่ไม่มีอาหารขายจ้าาา จะเดินไปกลับร้านโซนร้านอาหารก็ไกลเกินไปอีก เลยต้องใช้เงินแก้ปัญหา จ้างคนที่ร้านไปซื้อให้ ได้ข้าวกระเพรามากล่องละ 180 คร่าาาาา

8. อ่าวต้นไทร Tonsai Bay

ที่นี่เราขอเรียกว่าเป็น Hippie Town เลย มันลึก มันดิบ แต่มันก็น่าค้นหา มันเหมือนเราหลงไปในเผ่าอะไรซักอย่าง มีกลิ่นที่ไม่คุ้นเคย มีแคมป์ไซด์ มีบังกาโล มีเรกเก้บาร์ เรามีโอกาสแวะมาแค่แปปเดียว ครั้งหน้าอาจจะลองมาพักในย่านนี้ดู เราสามารถเดินจากหาดไร่เลย์ตะวันตกได้ แต่อาจจะลำบากหน่อย เดินผ่านป่าผ่านดง หรือไม่งั้นก็รอช่วงน้ำลงถึงจะเดินข้ามหาดได้ ยังไม่หมดนะ จากหน้าหาดต้นไทร ต้องเดินผ่านป่ามะพร้าวลึกเข้าไปอีกนิดนึง จะเจอกำแพง แล้วเราต้องปีนกำแพงนั้น นั่นแหละ เจอหมู่บ้านจะซ่อนอยู่หลังกำแพง ทำไมต้องทำให้มันลึกลับขนาดนี้ก็ไม่รู้

นี่ทางเข้าโซนที่พักอ่าวต้นไทร ปีนบรรไดนั่นไปคร่าาา

ถ้าเดินจากไร่เลย์ตะวันตกแบบง่ายสุด ต้องรอตอนน้ำลง จะไม่ต้องอ้อมขึ้นเขา ทางหน้าหาดมันก็จะหินๆประมาณนี้ เดินดีๆนะ หินแหลมมาก

9.Sunset in Railay West

พระอาทิตย์ใกล้ตกดินแล้ว ไร่เลย์ฝั่งตะวันตก ก็จะครึกครื้นเป็นพิเศษ เพราะวิวพระอาทิตย์ที่นี่สวยสุด ร้านค้าเอาเสื่อสานมาปู ฝรั่งเยอะมาก
มีทั้งออกมานั่งล้อมวงกับเพื่อนๆ หรือนั่งเปลี่ยวๆคนเดียวกับเครื่องดื่มเย็นๆ ก็มี มันเป็นบรรยากาศที่อบอวนไปด้วยความสุข เพราะนักท่องเที่ยวต่างมองหาความสวยงามของทริป และพระอาทิตย์ตกวันนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยจริงๆ

มัวแต่นั่งชิลดูพระอาทิตย์ตกดิน จนเวลา 6 โมงกว่าๆ ลืมไปว่าเลยเวลาเรือหมดทำการ โดนค่าเรือขากลับเพิ่ม อีก 50 บาทเพราะเกินเวลา เห้ออ ต่อราคาก็ไม่ได้ นี่นั่งอยู่หน้าเรือกลับอ่าวนางแท้ๆ ถ่ายรูปเรือมาด้วยเอ้าาา เกินมา 6.15 นาที พี่แกก็คิดตังเพิ่มนะคร้าาาา จงรวยค่ะจงรวย บรายยยย

10.THE LAST FISHERMAN BAR

ออกจากไร่เลย์ กลับมายังอ่าวนาง แถมๆ ให้อีกสักที่นึงก็แล้วกัน THE LAST FISHERMAN BAR เป็นบาร์สุดท้ายอยู่แถวท่าเรือหางยาวเลย ตั้งอยู่ตีนเขา ซ้ายสุดของหาดอ่าวนาง ครั้งหน้าถ้าอยากดูพระอาทิตย์ตกแบบไม่โดนชาร์ทเงินเพิ่ม ก็รีบกลับมาก่อน 6 โมงเย็น แล้วมานั่งดูที่นี้ก็ได้นะ ชิลเหมือนกัน

รู้ความลับของไร่เลย์กันหมดแล้วสินะ

สุดท้ายท้ายสุด อยากแนะนำที่พักเก๋ๆที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่ไม่ได้ปิดเป็นความลับ เพราะนางเพิ่งเปิดมาไม่กี่เดือนนี่เอง TAN HOSTEL เป็นที่สิงสถิตย์ของเราเมื่อมากระบี่เมื่อเดือนที่แล้ว ดีไซน์ชิคๆ ที่นั่งชิลเยอะ เราอยู่ที่นี่ 4 วัน เอางานมานั่งทำคูลๆ ไปวันวันตามวิถีฟรีแลนเซอร์

จองห้องพัก สอบถามรายละเอียดที่นี่
https://www.facebook.com/TANhostelxcafe/

และนี่ก็คือทริป “ไร่เลย์” ในแบบของเรา

แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าเด้อ
ต้นอ้อ :}

 

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
KYUSHU, take me to the sea :) คิวชู 9 วันกับคนแปลกหน้า 1 คน