ปามุคคาเล่ (Pamukkale) ประเทศตุรกี
เทือกเขาสีขาวโพลนที่เห็นบนหน้าปกบทความนี่ไม่ใช่ภูเขาหิมะนะ (ถึงแม้จะดูเหมือน) ที่นี่มีชื่อว่า Pamukkale (ปามุคคาเล่) ในภาษาตุรกีที่แปลว่า ปราสาทปุยฝ้าย ( Cotton Castle ) ด้วยความที่มันมีสีขาว แถมยังมีแอ่งน้ำสีฟ้าเล็กๆ วางตัวเรียงรายกันเหมือนเป็นนาขั้นบันไดอะ ส่วนความปุยฝ้ายนั้น จับๆละ แข็งชิบหายค่ะ มันก็เลยดูอเมซิ่งมากๆ นี่เราอยู่โลกไหนกันวะคะเนี่ย
ปามุคคาเล่เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวตุรกี เป็นถึงเมืองมรดกโลก UNESCO นอกจากภูเขาขาวๆแล้ว ยังมีเมืองโบราญบนที่ราบยอดเขา Pamukkale อีกด้วย
มาๆ นั่งลงก่อน เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง
INDEX
คอนเท้นต์ซีรีส์ ตุรกี นี้ จะมีทั้งหมด 7 ตอน แบ่งเป็นเมืองๆ จะได้อ่านง่าย เซิร์ดหาได้ง่ายๆ เป็นการเที่ยวเองทั้งหมด ไม่ซื้อทัวร์ เช่ารถขับบางเมือง เพราะขี้เกียจขับตลอดเวลา ครึ่งทริปแรกจะไปเมืองท่องเที่ยวเด่นๆที่คนมาเที่ยวตุรกีต้องไปแน่ๆ เช่น Istanbul / cappadocia / pamukkale ส่วนครึ่งทริปหลังเป็นการเดินทางแบบเอาแต่ใจ อยากเห็นเมืองที่คนไทยไม่ค่อยไป travel off the grid ไปขับรถเลาะถนนริมทะเล สามารถกดอ่านรายละเอียดแต่ละตอนได้เลยจ้า
- TURKEY แพลนเที่ยวตุรกีโดยรวม การเตรียมตัว สถานที่เที่ยว
https://www.highondreams.com/travel/turkey-15days-itinerary-ตุรกี/ - ISTANBUL
https://www.highondreams.com/travel/istanbul-turkey-อิสตันบูล/ - CAPPADOCIA
https://www.highondreams.com/travel/cappadocia-turkey/ - PAMUKKALE (This content)
https://www.highondreams.com/travel/pamukkale-turkey/ - MARMARIS
https://www.highondreams.com/travel/marmaris-turkey/ - FETHIYE
https://www.highondreams.com/travel/marmaris-turkey/ - ANTALYA
https://www.highondreams.com/travel/antalya-turkey/
ความเดิมตอนที่แล้ว เรานั่งรถบัสข้ามคืน (Overnight Bus) มาจากแคปพาโดเซีย (Cappadocia)ใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง โดยจะต้องลงที่เมือง Denizli Bus station ก่อน ค่อยหารถต่อรถเข้า Pamukkaleใช้เวลาอีกประมาณครึ่งชั่วโมง สรุปเราเดินทางมาถึง Pamukkale ตอน 7 โมงเช้า จองโรงแรม เข้า Check-in ละนอนต่อยาวๆ เพราะนอนบนรถบัสไม่หลับเลย
HOTEL PAMUKKALE
หลายๆ คน เลือกมาเที่ยว Pamukkale แบบ One day trip ถ้ามากับทัวร์เค้าก็จะพาชะโงกทัวร์เมืองนี้ครึ่งวัน แล้วไปเที่ยวต่อเมืองอื่น แต่เราเลือกที่จะนอนพักสักหนึ่งคืน จะได้เที่ยวให้มันคุ้มๆหน่อย กว่าจะเดินทางมาถึง มันเหนื่อย 5555
โรงแรมที่เราพัก เป็นโรงแรมเล็กๆ ราคาถูก ใจกลางเมืองปามุคคาเล่ ที่คุณป้าเจ้าของรร.ให้เราเข้าเช็คอินได้แต่เช้าตรู่ แกน่าจะชินแล้วมั้ง กับการมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางจาก Cappadocia แล้วมาถึงที่นี่เช้าขนาดนี้
เห็นโรงแรมแล้วน่ารักกว่าที่คิด สีผนังชมพู เสาสีเหลืองครีมๆ สระว่ายน้ำฟ้าอ่อน รวมๆละคู่สีสวย ยังกับอยู่ในหนัง Wes Anderson
จองผ่าน AGODA : https://bit.ly/37o55LO LOCATION : https://goo.gl/maps/utAyhhRocgJ1wa8A8
ดาดฟ้าชั้นบนสุดเป็นห้องทานอาหาร เราสั่งชุด Breakfast ง่ายๆ กับคุณป้าคนละหนึ่ง แต่ก็ลืมไปว่าอาหารเช้าของตุรกีนั้น ไม่ใช่ทางของเราจริงๆ หลังจากทานเสร็จก็เข้าห้องพักผ่อน ขอนอนก่อนเถอะ เดี๋ยวค่อยตื่นมาเที่ยว
Pamukkale town
เราตื่นประมาณบ่ายกว่าๆ อาบน้ำ เตรียมตัวออกไปชื่นชมความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ จากที่พักเราสามารถมองเห็น Pamukkale ได้เลย ซึ่งก็คือภูเขาสีขาวโพลน ที่เดินจากตัวเมืองไปไม่ถึงกิโล ส่วนในตัว Pamukkale town เหมือนเป็นเมืองใหม่ สะอาดสะอ้าน มีคลองไหลผ่านกลางหมู่บ้าน บางมุมก็แอบเหมือนหมู่บ้านญี่ปุ่น ที่มีบ้านกล่องตะมุตะมิ มินิมอล
มีร้านอาหารใหญ่ๆ ที่รองรับกรุ๊ปทัวร์ ในร้านมีเมนูภาษาจีนและรัสเซีย เราสั่ง Slice beef in hot chilli oil มาลอง พอได้กินอาหารสไตล์จีน รสชาติคุ้นลิ้นเหมือนอาหารไทย แล้วรู้สึกมีเรี่ยวแรงเที่ยวต่อขึ้นมาเลย 555
ปราสาทปุยฝ้าย
ตอนนี้ปามุคคาเล่ หรือปราสาทปุยฝ้ายอยู่ตรงหน้าเราแล้ว เป็นเทือกเขาสีขาวเหมือนหิมะ มีทะเลสาบเล็กๆอยู่ข้างหน้าทางเข้า และถ้ามาด้วยวิธีเดินแบบเราก็ควรทำใจไว้ด้วยนิดนึง เพราะเราต้องเดินเท้าเปล่าขึ้นไปจนถึงจุดยอดเขานั้น แต่ถ้ามีรถหรือมากับทัวร์ก็ขับขึ้นไปบนยอดได้
Open/Close : Everyday 6.30 am - 11 pm on summer / on winter will close earlier Entrance Fee : 35TL (Including hot spring / Hierapolis ruins) 80TL (Including hot spring / Hierapolis ruins / cleopattra pool ) Location : https://goo.gl/maps/5UM6zo4hpFj7MjXF9 (หมุดนี้เป็นทางเข้าสำหรับคนที่เดินมาจากในเมือง https://goo.gl/maps/oqukkpumBPBRbeYS6 )
จุดซื้อตั๋วตั้งอยู่ตีนเขาเลย ละคิดดู กว่ากุจะเดินขึ้นไปถึงยอด 555
เอาจริงๆการเดินเท้าเปล่าขึ้นไปก็ไม่แย่นะ พื้นมันเย็นๆ เปียกๆ อากาศวันนี้แดดดี ท้องฟ้าแจ่มใส 25องศาชิลๆ แต่ก็ไม่อยากจะนึก ถ้ามาหน้าหนาวอุณหภูมิติดลบก็คงช็อคนิดๆ
ระหว่างทางเดินขึ้นไป เราจะเห็นบ่อน้ำสีฟ้าเรียงเป็นชั้นทั้งหมด 10 ชั้นใหญ่ๆ ยิ่งเดินขึ้นไปสูงขึ้นเรื่อยๆ วิวก็ยิ่งสวย และคนก็ยิ่งเยอะ
ให้ตายสิ แสบตาชิบหาย สีขาวมันสะท้อนแสงแดดใส่ตา จนแทบมองอะไรไม่เห็น ถ่ายรูปยิ่งยาก วัดแสงไม่ได้เลย ต้องกดโหมดออโต้ไปก่อน มองไม่เห็นจอ แนะนำให้ทุกคนที่จะมา เตรียมแว่นกันแดดที่มีคุณภาพมาดีนะคะ
ทำไมมันถึงเป็นสีขาวได้อะหรอ?
จะอธิบายอย่างง่ายๆ แบบที่เราเข้าใจคือ มันเกิดจากหินปูนทราเวอร์ทีนที่ตกตะกอนบนภูเขา แล้วตรงนั้นมีลำธารน้ำแร่ใต้ดิน ที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตพอดี
เมื่อน้ำไหลออกมาจากดิน มาป๊ะกับอากาศ ทำปฏิกิริยากัน จึงเกิดเป็นชั้นหินปูนสีขาว และแอ่งน้ำแร่ธรรมชาติอุ่นๆ อย่างที่เราเห็น ถ้าไม่ได้เรียนมาจะไม่เข้าใจหลักการนี้หรอก และใช่ค่ะ เราก็ไม่เข้าใจ 555
แต่ไม่เป็นไร เอาเป็นว่ามันไม่ได้เป็นอันตราย
และถ้าถามถึงสัมผัสว่าเป็นยังไง ขอตอบเลยว่า ตรงข้ามกับชื่อปราสาทปุยฝ้ายแบบสุดๆ ทั้งแข็งและหยาบมากแก 555
เดินมาถึงยอดเขาแล้ว บนนี้มีร้านเครื่องดื่ม ไอศกรีม ของว่างขายในราคาเอาเรื่องมากๆ แต่ก็เป็นปกติของสถานที่ท่องเที่ยวแหละเนอะ
มุมมองจากข้างบน มองเห็นบ่อน้ำสีฟ้าเป็นชั้นๆ มีเป็นร้อยๆบ่อ แต่ละบ่อมีอุณภูมิที่ต่างกัน ตั้งแต่ 35c-100c ทางอุทยานอนุญาติให้ลงบ่อเฉพาะบ่อที่กำหนดไว้ ไม่ให้เดินออกนอกเส้นทาง มีเจ้าหน้าที่ยืนคุมเลย
น่าเสียดายนิดหน่อยที่ฤดูที่เรามาน้ำแห้ง น้ำมันก็เลยไม่ท่วมทุกบ่อ
ตอนกลางวัน คนก็เยอะประมาณนี้แหละ ต้องหามุม และจังหวะเอา
ถ้าอยากถ่ายรูปแบบโล่งๆ คนน้อยๆโดยไม่ต้องพึ่ง photoshop แนะนำว่าบ่อแรกๆจะไม่ค่อยมีคน เพราะทัวร์ที่ลงรถมาจากยอดเขาจะเดินลงมาไม่ถึง แต่ฉันเดินมาตั้งแต่ตีนดอยเลยจ้า หรืออีกวิธีคือให้รอช่วงเย็นๆ ตอนที่กรุ๊ปทัวร์ที่มา one day trip กลับบ้านไปหมดแล้ว
เราก็รอตอนเย็นๆ ให้ทัวร์กลับ ค่อยลงแช่น้ำ ละอยู่จนพระอาทิตย์ตกดินไปเลย แม่งสวย สงบ สะอาด ไม่แสบตา และถ่ายรูปได้ นี่คือประเด็น
ยังไม่แน่ใจว่าแร่ธาตุจากบ่อน้ำพุร้อนเหล่านี้ช่วยอะไรบ้างนะ แต่ได้ยินมาว่า ที่นี่เคยถูกเรียกว่าเป็นเมืองสปาของคนรวยสมัยโรมัน มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ที่สามารถช่วยรักษาโรคได้
เราได้ลองเอาดินขาวๆ มาพอกตัวแล้ว ด้วยความเชื่อว่า น่าจะทำให้ผิวดีขึ้นแหละ เราใช้ชีวิตด้วยความเชื่อล้วนๆ 555
ชอบตอนไม่มีคนจริงๆ มันเหมือนอยู่บนดาว สถานที่ท่องเที่ยวในตุรกีคือเหมือนไม่ใช่บนโลกหลายที่ละ
Hierapolis City Ruin
นอกจากปราสาทปุยฝ้ายและบ่อน้ำพุร้อนสีฟ้าแล้ว ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO พร้อมๆกันคือเมือง Hierapolis ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราบบนยอดเขา Pamukkale แห่งเดียวกันนั่นเอง
Hierapolis เป็นเศษซากสิ่งก่อสร้างที่แสดงให้เห็นว่าบนพื้นที่นี้เคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองมาก ในสมัยศตวรรษที่ 2 มีโรงละคร แอมฟิเทียเตอร์ มีโบสถ์ มีวัด มีศาสนสถานสำคัญต่างๆ และมีสปา… คิดดูว่ามนุษย์เราต้องการ สปา มาตั้งแต่ก่อนคริสตกาลอีก
อุส่าเดินขึ้นมาจากตีนดอยจนถึงยอดแล้ว ต้องไปดูเค้าหน่อยแหละ
Hierapolis, Denizli Entrance Fee : 35TL (Including hot spring / Hierapolis ruins) 80TL (Including hot spring / Hierapolis ruins / cleopattra pool ) Location : https://goo.gl/maps/sVkBMs1JNnyziezy8
Pamukkale Amphi Theatre
เสาโรมัน แอมฟิเทียเตอร์ เมืองกรีกสไตล์ มีอยู่ทั่วๆไปในตุรกีเลย เราเลือกมาที่นี่เพราะอยู่ใกล้ๆกับปามุคคาเล่ แค่เดินขึ้นเขามาก็ถึงแล้ว งดงามตามสไตล์โรมัน เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าที่นี่เคยเป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง ทางศิลปะ
Location : https://goo.gl/maps/ERpY7pfrEz2rHh7K9
ที่เราชอบคือ ทุ่งหญ้าสีทองระหว่างทาง โคตรสวย ถ่ายรูปมาเยอะมาก มากจนถามตัวเองว่าถ่ายยังไงให้เหมือนอยู่ตุรกี เพราะภาพที่ได้มา ที่ไทยก็มีนะแกร 555
เอ้อ ละที่นี่แห้งมาก คอแห้งผิวแห้ง ดื่มน้ำเยอะๆ พกขวดน้ำไปด้วยหละ ข้างบนของแพง
Necropolis of Hierapolis (สุสานเนโครโปลิส)
ความรู้สึกกลัว บางทีก็มาจากสิ่งที่เรารู้มา ได้ยินมา
ถ้าไม่รู้ มันก็อาจจะไม่น่ากลัวก็ได้
เหมือนตอนเด็กๆ ที่ไม่ค่อยกลัวอะไรเลย
.
ทุ่งหญ้าสีทองที่เราวิ่งเล่นอยู่ในภาพพวกนี้
ตอนแรกก็ลัลล้าเพราะความสวยงามของมัน
แต่พอรู้ว่าที่ยืนอยู่อะ มันคือ….สุสาน
ความรู้สึกกลัวก็เกิดขึ้นมา
อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนต้น ว่าที่นี่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่มีแร่ธาตุจากธรรมชาติ คนสมัยนั้นเชื่อว่าน้ำร้อนจะช่วยบำบัดรักษา ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ จนบางคนให้ชื่อเรียกว่า Holy City เมืองศักดิ์สิทธิ์ มีคนหลายคนเดินทางมา เพื่อมาใช้ “วันสุดท้ายของชีวิต” ที่นี่…
ลองหาข้อมูลไปมา ก็พบว่า The Necropolis of Hierapolis หรือ สุสานของเมืองเฮียราโปลิส (ภาษากรีก Necro = dead, Polis = city) มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรอานาโตเลีย กระจายตัวอยู่รอบๆ และอีกฝั่งนึงมี Necropolis เรียงติดกันกว่า 1200 หลุม โดยลักษณะของหลุม จะแตกต่างกันไปตามฐานะ รวยหน่อยก็ใหญ่หน่อย มีหลังคา มีทางเข้าเล็กๆ อยู่บนเนินเขา สำหรับบุคคลธรรมดาก็จะเป็นแค่แท่นเหลี่ยมๆ สลักชื่อวางไว้
.
ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ก้อนปูนที่กระจายตัวในทุ่งหญ้าสีทองของเรา เป็นเศษซากของอาคารที่พังลงมา หรือเป็นหลุมศพกันแน่
Necropolis ที่นี่จะมีอยู่ 4 แบบ ขึ้นอยู่กับฐานะชนชั้น
- Tumulus Graves
มีฐานกลมใหญ่ ตั้งอยู่ในเนินดิน มีห้อง Graves room ที่มีประตูทางเข้าเล็กๆ อันนี้จะเนียนไปกับเนินเขา - Sarcophagus
type นี้เป็นของคนรวย ฮีโร่ Noble people โรงศพสร้างด้วยหินอ่อน marble ขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนแท่นวาง ตกแต่งสวยงาม - Public graves
หลุมฝังศพสาธารณะ ของบุลคลทั่วไป ฝังดิน มีหินสลักชื่อทรงกล่องสี่เหลี่ยมวางไว้ข้างบน - Family Graves
อันนี้จะมีขนาดใหญ่ ตามจำนวนของคนในครอบครัว มีหลายห้อง มีหน้าต่าง ประตู หลังคา บางโรงศะจากหินอ่อน และส่วนอื่นๆเป็นหินปูน สลักชื่อพร้อมตำแหน่งทางสังคม
CLEOPATTRA ANTIQUE POOL
สระคลีโอพัทรา สระว่ายน้ำที่ตั้งอยู่บนยอดเขาปามุคคาเล่ ฟิลเหมือนโอเอซิสกลางทะเลทรายอะ เพราะข้างบนนี้แห้งแล้งมาก เดิมเป็นบ่อน้ำแร่ที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นของขวัญให้ Cleopatra จากMarc Anthony ในศตวรรษที่ 7 มีน้ำแร่ร้อนธรรมชาติผุดจากใต้ดิน แต่วันหนึ่งเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ทำให้เศษอาคาร เสาโรมัน ตกลงไปในสระน้ำ บวกกับความที่น้ำใสมากมองเห็นเสาในน้ำ เป็นสระที่มีสตอรี่ เห็นละเท่เฉยเลย จากสปาเดิมก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจนถึงทุกวันนี้
มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าเข้า Pamukkale อีก 33TL ตอนนั้นรู้สึกว่าแพง กลัวไม่คุ้ม 555 แอบเสียดายอยู่เหมือนกันที่ไม่ได้ลงน้ำในนี้ แต่เราสามารถเข้ามาดู เข้ามาพักหลบแดดข้างในได้นะ
Open/Close : NOV to MAR 8am-5.30pm / APR to OCT 8am-7.30pm
Entrance fee : 33TL (ไม่มีผ้าเช็ดตัวให้เช่า)
Location : https://goo.gl/maps/MmdCd2rSbYzZPit48
สำหรับ ONEDAYTRIP เที่ยวปามุคคาเล่ ด้วยตัวเอง จบตรงที่พวกเราสองคน ต้นอ้อกับฟาง นอนแช่น้ำดูพระอาทิตย์ตกดิน ที่ตกตอน 2 ทุ่ม อย่างสบายใจ และอยากขอบอคุณที่พาตัวเองมาเที่ยวได้ไกลถึงขนาดนี้ อยู่ในสถานที่ที่สวยงามขนาดนี้ เรารักทริปนี้มากจริงๆ
เดินกลับโรงแรมพร้อมความปรื้มปริ่มประทับใจ
หลังจากนี้ ภารกิจต่อไปคือไปเที่ยวเมืองที่นอกเหนือจากในรูททัวร์ ไม่แลนด์มาร์ค ไม่ดังในหมู่คนไทย แต่ดังในหมู่นักท่องเที่ยวยุโรป เราเลือกที่จะไปที่นี่เพราะเป็นเมืองติดทะเลเมดิเตอร์เนียน ฉันอยากไปทะเลลลลล ไม่ใช่อะไร 555 เดี๋ยวพาขับรถเข้าเมืองทะเล 3 เมืองใหญ่ๆ คือ มามาริส (Marmaris) , เฟททิเย (Fethiye) , อันทัลย่า (Antalya)
โปรดติดตามตอนต่อไป
Story : ต้นอ้อ high on dreams :}
IG : https://www.instagram.com/highondreams
Photographer : ฟาง อารมณ์นิยม
IG : https://www.instagram.com/peach_zd/
Travel date : May 2018
