พาแก๊งชะนีนั่งรถไฟไปทะเล กับ “ณิชาวิลล์ รีสอร์ท” ห้วยยาง
ถ้าไม่ใช่หัวหิน ชะอำ พัทยา ก็คิดไม่ออกแล้วว่าจะไปทะเลที่ไหนดี ที่ไม่ไกลกรุงเทพ
ที่นี่คืออีกที่ที่อยากเล่าให้ฟังมากๆ เพราะมันเป็นที่ที่เหนือความคาดหมาย คือเราไปทะเล “ห้วยยาง” มาแหละแกร
บางคนอาจจะ งงๆ ว่า อะไรวะ จะเป็นห้วยหรือจะเป็นทะเล เอาซักอันมั้ย อธิบายง่ายๆเลยคือ ขับเลย ชะอำ หัวหิน ปราณบุรี มาอีกหน่อยนึงก็ถึงห้วยยางแล้ว โลเคชั่นใหม่ ไม่ซ้ำเดิมแน่นอน
แต่ที่พิเศษคือ ทริปนี้เรานั่งรถไฟมากับแก๊งชะนี ผู้ไม่เคยขึ้นรถไฟมาก่อนในชีวิต 555 พอนึกภาพออกมั้ย ชะนีเยอะๆ ลากกระเป๋ายังกะอยู่แอร์พอร์ท แต่ป่าวจ้าาา นี่มาหัวลำโพง…
ถ้าวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้กำลังหาทริป “นั่งรถไฟไปทะเล” คูลๆ กับฝูงชะนีเพื่อนรัก พักพาแก๊งชะนีนั่งรถไฟไปทะเล กับ ณิชาวิลล์ รีสอร์ท Beach house เหมาทั้งหลัง
ก็อ่านต่อไปได้เลย
ห้วยยางอยู่อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นทะเลฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง เที่ยวได้ทั้งปี แต่ที่อากาศดีและน้ำฟ้าสุดคือช่วง เม.ย – มิ.ย.
สำหรับตารางรถไฟไปห้วยยาง ขาไปออกจากสถานีหัวลำโพง 8.05น. ถึงสถานีห้วยยาง 12.45น. ขากลับจากสถานีห้วยยาง 14.40น. ถึงหัวลำโพงกรุงเทพ 19.45น.
พวกเรารวมตัวกันที่หัวลำโพง เพื่อขึ้นรถไฟรอบ 8.05น. เช้า เป็นรถไฟแบบสปรินเตอร์ เป็นเก้าอี้เบาะดีๆ มีแอร์ มีอาหารให้ ไม่ใช่แบบเก้าอี้ไม้ชั้น 3 นะจะบอกให้ ใช้เวลานั่งเพียงแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้น สบายกว่าขับรถไปเองเยอะ เพราะไม่เหนื่อย ที่นั่งไม่เบียดกัน มีน้ำเสิร์ฟตลอด สำหรับรอบรถไฟที่ควบช่วงเที่ยง จะมีอาหารบริการให้ฟรี ไม่มีคนขึ้นมาขายของให้วุ่นวาย แต่พอผ่านราชบุรีจะสามารถเปิดหน้าต่างสั่งก๋วยเตี๋ยวราชบุรีขึ้นมากินได้
ลากกระเป๋าเข้าหัวลำโพงแบบสวยๆ ประหนึ่งว่าเดินอยู่แอร์พอร์ท 555
หน้าตาตั๋วโดยสาร ราคา 463 บาท จองไว้ก่อนด้วยนะ เพราะมันเต็มเร็วมาก ส่วนใหญ่ก็จะเป็นฝรั่งนี่แหละ ที่นั่งมาเที่ยว
บนรถไฟ เป็นที่นั่งเบาะหนังอย่างดี แอร์เย็นๆ เอนหลังได้ด้วย แนะนำให้เตรียมเสื้อกันหนาวขึ้นมาด้วย เพราะแอร์เย็นจริงๆ
ถามว่าพวกเพื่อนตื่นเต้นมั้ย มันบอกก็ตื่นเต้นตอนรอรถไฟที่สถานหัวลำโพงแหละ ฟิลลิ่งคลาสสิคมากๆ แต่พอขึ้นรถไฟมาก็ชิลๆละ มันสบายเหมือนนั่งรถทัวร์อะ ถ้ามีผ้าห่มกับหมอนนุ่มๆนี่หลับยาวจ้า ใครที่ยังมีอคติกับรถไฟนี่ลองคิดดูใหม่ ลองมานั่งสปรินเตอร์ก่อนซักครั้ง เราก็เพิ่งนั่งครั้งแรกเหมือนกัน ดีกว่ารถไฟชั้นสามเป็นไหนๆ แถมตรงเวลาด้วย
สถานีห้วยยาง
มาถึงปุ๊ป รถจากที่พัก NishaVille ก็มารอรับพวกเราอยู่เรียบร้อยแล้ว
สถานีห้วยยางเป็นสถานีเล็กๆ ไม่ค่อยมีคน ซึ่งทางการรถไฟสปรินเตอร์ที่เรานั่งมาก็เกือบจะหยุดบริการที่นี่แล้ว เพราะมันไม่ค่อยมีคนลง มันน่าเสียดายนะแต่ถ้ามีนักท่องท่องเที่ยวมาลงสถานีนี้มากขึ้น เขาก็จะต่อสัญญาเพิ่มให้เรื่อยๆ ก่อนจะจองก็เช็คกับการรถไฟมาดีๆ จะวอคอินซื้อตั๋วรถไฟไม่ได้เด้อ
เราว่ามาเถอะ สถานีนี้น่าจะเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ นอกเหนือจากหัวหิน ปราณบุรีได้แล้ว มันห่างจากชายหาดแค่ 2 กิโลเองอะ
NishaVille Resort (ณิชาวิลล์รีสอร์ท)
เป็นรีสอร์ทติดทะเลที่มีพื้นที่กว้างมากๆ จากรีเซฟชั่นก็ต้องนั่งรถกอล์ฟผ่านสวนมะพร้าวและฟาร์มออแกนิคของที่นี่เพื่อเข้าไปตัวที่พักและห้องอาหาร
ติดต่อสอบถาม / จองห้องพักได้ที่
https://www.facebook.com/NishaVille.Resort.Spa/
www.nishavilleresort.com
TEL : 032 616 333
บ้านพักที่นี่จะมี 6 type คือ Beachfront Cottage, Coconut Villas, Lakeview Villas, Beachfront Pool Villas ,Pool Access suites, Seaview Suites สามารถรองรับนักท่องเที่ยแบบ long stay ในบ้านที่เป็นส่วนตัว และแบบกลุ่มใหญ่ได้ถึง 200 คน
ส่วนของเราเป็นโซน Coconut Villas ได้บ้านส่วนตัวทั้งหลัง ในราคาย่อมเยา มา 5 คน หารกันเฉลี่ยคนนึงไม่กี่บาทเองแกรรรรร
บ้าน Coconut Villas
ภายในตัวบ้านมี 2 ห้องนอน 2ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น บางหลังมีห้องนอนใต้หลังคาหรือถ้าเรียกง่ายๆว่า ห้องใต้หลังคา ยังกับบ้านฝรั่งเลย ก็จริงๆแล้วแปลนบ้านพวกนนี้จะดีไซน์สไตล์ตะวันตกเลย เพราะเค้าสร้างมาเพื่อขายเป็นบ้านพักตากอากาศให้ฝรั่งซื้ออยู่ และบางส่วนก็เปิดเป็นรีสอร์ท เหมือนบ้านหลังที่เราเข้าพักนี่แหละ
ห้องน้ำกว้างจริงๆ มีอ่างอาบน้ำชิคๆด้วยแหละตัวเธออ แถมยังมีห้องใต้หลังคา เอาลูกหลานมาน่าจะแย่งนอนกันห้องนี้
ยังมีบ้านอื่นๆที่เราขอเขาเข้าไปดูอีก ตกแต่งสไตล์เดียวกัน และก็น่าอยู่ไม่แพ้กันเลย อย่าง Lakeview Villas หลังบ้านวิวทะเลสาบ ส่วนหน้าบ้านเดินตรงออกไปนิดหน่อยก็เป็นทะเลเลย อยู่ใกล้ๆบ้าน Coconut Villas ของเรานี่แหละ
ห้อง Seaview suit จะอยู่ในอาคารสูง 5 ชั้น เห็นทะเลและสระว่ายน้ำ พร้อมระเบียงที่ใหญ่มากๆๆๆ แบบที่จัดปาร์ตี้ริมระเบียงได้เลย จริงๆอันนี้เป็นห้องแบบสูท 2 Bedroom สำหรับ 4 คน แต่ถ้าจะเข้าอยู่แค่ 2 คน เขาจะล็อคห้องนอนนึงไว้ ไม่ให้เข้า เท่ากับเรายังคงได้ห้องนั่งเล่นและระเบียงใหญ่ๆนั่นด้วย ว๊าวๆ
หรือถ้ามีงบเพิ่มมาอีกหน่อย จะอยู่แบบบ้าน Beachfront Pool Villas เป็นบ้าน 2 ชั้นหน้าหาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว พักได้ 6 คน หลังนี้คือดีที่สุดแล้ว ถ้ามาอีกรอบก็อยากจะอยู่บ้านนี้แหละ Type นี้ มีแค่ 4 หลังเท่านั้นเด้อ
เราชอบรีสอร์ทนี้ตรงที่ติดทะเลและมีสวนมะพร้าวเป็น foreground เพิ่มความชิคด้วย Beach Bar ทรอปิคอลไปอีก ลากเพื่อนมาถ่ายรูปกันแกรรร
หลังจากเก็บของเข้าห้องพัก ก็เตรียมตัวเปลี่ยนชุดไปลงน้ำกัน
ที่นี่มีสระว่ายน้ำหันหน้าออกทะเลเก๋ๆอยู่ในโซนที่พักเราด้วย เป็นสระพร้อมจากุซซี่ 6 ที่นั่ง มองวิวทะเลไปเม้ามอยกันไป
จุ่มตัวในสระได้ไม่นาน ใจมันอยากลงน้ำทะเลให้ตัวเค็ม เลยพร้อมใจพากันย้ายไปเล่นริมทะเล
พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้ว แสงนวลๆนี้ทำให้ทะเลตอนนี้บรรยากาศดี๊ดี นี่แหละ แกร ความชะนี ออนเดอะวีคเอน มันก็จะเป็นทริปถ่ายรูปเยอะๆ
เหงาหรอ? ไม่หรอกถ้าอยู่กับพวกแก
อกหักมาหรอ? มาสิเราจะอยู่เป็นเพื่อน
ทะเลาะกับแฟนหรอ? ไม่เป็นไรแกยังมีเรา
เอ้า ไม่มีแฟนหรอ? เออ กุก็นกมาเหมือนกัน
ดอกไม้วาเลนไทน์ก็ไม่มีให้หรอกนะ จะมีให้แต่โปรเนื้อย่างมา 4 จ่าย 3 อะแกร๊ มาเป็นคู่ก็ไม่ได้แดกนะ ราคานี้ หรือจะ BEACH HOUSE หลังใหญ่ อยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน ให้คนมีคู่อิจฉา (เอ๊ะ จะอิจฉามั้ย 555)
มันดีที่มีเพื่อนจริงๆนะ
(เพราะตัวหารเยอะ 555)
มาพูดถึงเรื่องอาหารกันบ้าง เราฝากท้องไว้กับห้องอาหารที่นี่ทุกมื้อ ทั้งมื้อเที่ยง มื้อเย็น และมื้อเช้า แอบมีมื้อกรุบกริบจิบขนมระหว่างวัน ก็จะขอติดรถกอล์ฟรีสอร์ทออกไปเซเว่นด้วย 555
ที่นี่มีร้านอาหารอยู่ 3 ส่วน คือ The Seabreeze Restaurant เป็นอาหารเช้า
The Verandah Restaurant
เป็นที่ทานอาหารกลางวันและอาหารเย็น อาหารก็หลากหลายทั้งอาหารไทย อาหารพื้นบ้าน เช่น ลาบเป็ด น้ำพริกปลาทูงี้ก็มี เพื่อนบอกว่ากินน้ำพริกที่นี่แล้วคิดถึงบ้าน 555 ส่วนอาหารฝรั่ง ก็พวกคาโบนาร่า พิซซ่า สเต็ก และอื่นๆอีกเยอะ
เออ แล้วผักต่างๆของที่นี่เป็นผักออแกนิค ปลูกเองอยู่ในพื้นที่รีสอร์ทนี่แหละ มั่นใจได้เลยว่าปลอดสารพิษแน่ๆ มาพักที่นี่ชีวิตดีและสุขภาพก็ต้องดีด้วยนะคะ
ส่วนตัวเราว่าพิซซ่าและคาโบน่าร่าคือดีงามมากๆหน้าพิซซ่า สามารถเลือกแบบ 2 หน้าใน 1 ถาดด้ด้วย ส่วนคาโบนาร่าก็เป็นสูตรใส่ไข่แดงสดข้างบน เป็นรสชาติแบบออรินอลเลยอะ น่าจะเพราะลูกค้าเป็นชาวต่างชาติเยอะ อาหารต่างชาติเลยดีงามกว่าอาหารไทย
The Beach Lounge
นี่เป็นบาร์ริมทะเลหละ แต่มาถ่ายตอนเช้า มันเลยปิดอยู่ ตรงนี้โคตรชิลจริงๆ นั่งโซฟาจิบเบียร์เย็นๆนะ (แอบบอกนิดนึงว่าติดใจมะนาวจากสวนของที่นี่มาก มันเปรี้ยวแบบฉ่ำๆ เอาไปป๊อกกับว๊อดก้า โคตรดี นี่แอบบอกแล้วนะ 555)
รีสอร์ทหันหน้าไปทางฝั่งพระอาทิตย์ขึ้น ตอนเช้าเลยตื่นมาดูพระอาทิตย์ซักหน่อย แล้วให้พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าในวันกลับ เป็นภาพปิดทริปพักผ่อนใจในครั้งนี้เนาะ
พวกเรามาอยู่กันแค่ 2 วัน 1 คืน ถามว่าคุ้มมั้ยกับการนั่งรถไฟมาถึง 5 ชั่วโมง สำหรับเรา เราว่ามันโอเคแล้ว ได้ใช้เวลากับเพื่อนรัก ได้เล่นน้ำทะเล ได้พักผ่อนเพียงพอ ในที่ที่บรรยากาศดีๆ ได้อัพเดทชีวิตชะนีทั้งหลาย 555 ถึงแม้จะอยากอยู่ให้นานกว่านี้อีกหน่อย แต่ทุกคนก็มีภาระและหน้าที่อะเนอะ มีเวลาว่างแค่เสาร์อาทิตย์ ต้องกลับไปหาเงินไว้มาเปย์ตัวเองใหม่
แต่เราก็แอบแพลนไว้แล้วหละ หากอยู่นานกว่านี้ ยังมีอะไรให้ทำอีกเยอะเลย ทั้งนวดสปา ฟิตเนส พายเรือคายัค ปั่นจักรยานรอบๆ ออกทริปไปดำน้ำสนอคเกิ้ล สกูบ้า(ก็ได้นะ) มันมีเกาะให้ไปอยู่ เขาว่าน้ำใสมากๆ รอบหน้าไม่พลาดๆ หรือจะออกเที่ยวรอบๆห้วยยาง ก็มีหาดวนกร อุทยานแห่งชาติหาดวนกร น้ำตกห้วยยางก็มี ส่วนบาร์ และร้านอาหารข้างนอกรร.ก็มีเยอะเหมือนกัน ลองมาสำรวจกันเองเด้อ
ส่วนพวกเรารอนั่งรถไฟกลับรออบบ่าย 14.40 เวลาดี ไปถึงกรุงเทพตอนหัวค่ำ ไม่ดึกเกินไป ยังพอมีเวลาให้พักผ่อนและซักผ้าไปทำงานพรุ่งนี้อยู่ 555
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้าค่าา
ต้นอ้อ
ติดต่อสอบถาม / จองห้องพักได้ที่
https://www.facebook.com/NishaVille.Resort.Spa/
www.nishavilleresort.com
TEL : 032 616 333