ขี่มอไซด์เล่นที่ ‘เกาะยอ’ เกาะเล็กๆ กลางทะเลสาบสงขลา | KOH YOR , SONGKLA

ถ้าจะให้พูดถึงเกาะที่เท่ที่สุดที่เคยไปมา ก็คงจะเป็นที่นี่แหละ “เกาะยอ” จังหวัดสงขลา

เท่ยังไง?

คือ มันไม่ใช่แค่เกาะกลางทะเลธรรมดาๆ แต่มันคือเกาะกลางทะเลสาบบบบบค่าาา ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ของประเทศไทย
กินพื้นที่ถึงสามจังหวัดคือ สงขลา พัทลุง และนครศรธรรมราช

เราเพิ่งจะรู้จักที่นี่ได้ไม่นาน ก็ตามรีวิวต่างๆที่แชร์กันแหละ โหหหววว ภาพสวยมาก สวยจนอยากจะไปอยู่ตรงนั้น มันมีความชาวบ้าน มีความอาหารทะเล มีความนั่งชิวดูพระอาทิตย์ตกดิน กอปรกับกำลังสะสมเกาะรอบประเทศไทย จึงจับมาอยู่ในทริปถัดไปซะเลย

เริ่มจาก บขส หาดใหญ่เลยแล้วกัน เพราะก่อนหน้านี้เราไปเกาะเต่า ต่อเรือนอนมาสุราษณ์ ต่อรถตู้จากสุราษมาที่หาดใหญ่นี่แล เป็นส่วนหนึ่งในทริปยาวๆ แวะโน้นแวะนี่ไปเรื่อย ก่อนจะข้ามไปมาเลเซีย และอินโดนิเซียต่อ

ใครจะว่าเดินทางเยอะอย่างนี้ เหนื่อยตายอะ เห้ย เอาจริงๆเราว่าตอนทำงานเหนื่อยกว่านี้อีก มันเครียดอะ และการเดินทางยาวๆมันก็ดีอยู่อย่าง คือมันประหยัดกว่า ไม่ได้หมายความว่าเสียเงินน้อยกว่านะ แต่หมายถึง ถ้าเอาจำนวนเงินมาหารต่อวันมันถูกกว่า จริงๆ เหมาะสำหรับคนที่มีเวลาเยอะอะนะ เช่นเรา ตอนที่ตกงาน 555 (นอกเรื่องจังเลย)


(เข้าเรื่องค่ะ)
ทริปนี้เรามาคนเดียว ไม่มีใครว่างมาด้วยกัน เพราะครั้งนี้เราเที่ยวเป็นเดือน แหะๆ ก็หาเพื่อนเอาดาบหน้านี่แหละจ้า

จาก 3 ทุ่มของเมื่อคืนบนเรือนอน จนกระทั่งมาถึงหาดใหญ่ตอน เที่ยงตรง และภารกิจแรกที่ต้องทำคือ หาทางไปโฮสเทลที่จองไว้ให้ได้ ครั้งล่าสุดที่มาหาดใหญ่ คือ 3 ปีที่แล้ว แตะตัวเมืองอยู่ประมาณ 15 นาที ก็นั่งรถตู้ต่อไปปีนัง ไม่รู้ว่าต้องไปที่ไหนยังไง ก็เลยต้องอาศัยการมั่วนิ่มนิดนึง แต่มันไม่เป็นปัญหาอะไรหรอก เพราะแผนที่อยู่ที่ปากเราเองนี่แหละคร่าาา (คำพูดสวยๆค่าาา)

ป่าวหรอกค่ะ มันไม่ได้สวยอย่างที่คิด มันพลาดเมื่อเอาปากไปถามพี่ตุ๊กตุ๊กนี่แหละ รับรองว่าพี่แกไม่ปล่อยให้ลูกค้าหลุดมือไปแน่ๆ ก็เลยต้องไปกับพี่แก เพราะหาสองแถวไม่เจอ

จาก บขส ไปโฮสเทลแถวตลาดกิมหยง โดนไป 50 บาทค่ะ ตอนนั้นคิดว่าไม่แพงเพราะเจอแทกซี่ที่เกาะเต่าแพงกว่านี้มาก


THE HIVE HOSTEL

หลังจากพี่ตุ๊กๆมาส่งถึงที่พักเรียบร้อย เข้าเช็คอินเลยค่าาา

ที่นี่เป็นโฮสเทลในตึกแถว ใกล้กับตลาดกิมหยง ตลาดหลักของหาดใหญ่เค้าหละ ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน ก็ให้เริ่มจากที่นี่แหละ หรือถ้าจะหารถสองแถวไปสนามบินก็หาได้ที่นี่เช่นกัน ทำเลสะดวกดี

สำหรับที่นอน เตียงมีที่กั้นแบ่งช่องของใครของมัน เป็นส่วนตัวดี มีผ้าเช็ดตัวให้ ผ้าห่มนุ่ม ดูสะอาด นอนสบาย\ แต่รู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่จะมาหาเพื่อนใหม่ได้อะ living room ไม่มีอะไรเลย ก็อยู่ลำพังไปค่าาา

วันนี้จะไปเกาะยอ

ก่อนออกแวะกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊ฮุ้ง เป็นร้านที่น้องโฮสเทลแนะนำมา ว่าอร่อยมวกกก ถึงกับต้องวาดแผนที่ให้เลย กลัวหลงไปผิดร้าน 555

อร่อยค่ะอร่อย เด็ดที่ลูกชิ้นเอ็นเนื้อนี่แหละ เค้าเครมมาว่าเป็นลูกชิ้นโฮมเมดเลยนะ แต่เราว่าน้ำซุปมันจืดๆไปหน่อย เอ๊ะ หรือมันต้องปรุงเพิ่มนะ 5555

เกาะยอ

เกาะยอห่างจากหาดใหญ่เพียง 20 กิโลเอง ขับมอไซด์มาได้สบายมาก ถึงที่นี่จะเป็นเกาะเล็กๆ แค่ 15 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น
แต่เค้าก็มีคำขวัญเป็นของตัวเองนะเออออ

“สมเด็จเจ้าเป็นศรี    ผ้าทอดีล้ำค่า
นานาผลไม้หวาน      ถิ่นอาหารทะเล
เสน่ห์สะพานติณฯ     สถาบันทักษิณลือนาม
งดงามเรือนทรงไทย”

หากตีความจากคำขวัญเกาะยอแล้ว แตกออกได้เป็น 6 สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเกาะยอ ผ้าทอ ผลไม้ อาหารทะเล สะพาน สถาบันทักษิณ เรือนไทย

และนี่คือสิ่งที่ควรรู้ก่อนมาเกาะยอ ตามคำขวัญค่ะ

ผ้าทอเกาะยอ
เป็นศิลปหัตถกรรมพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของเกาะยอ มีความปราณีตในการทอ และมีสีสันลวดลายสวยงาม เป็นสินค้า OTOP ที่ได้เป็นผลิตภัณฑ์ดีเด่นของจังหวัดสงขลา และรับรางวัลดีเด่นระดับประเทศ (ปี 2549)

ผลไม้
ผลไม้ที่ขึ้นชื่อของเกาะยอคือ จำปาดะ และ ละมุด ละมุดของที่นี่ปลูกกันมาช้านาน เค้าเครมว่ามีรสชาติหวาน กรอบ เป็นพิเศษ และจำปาดะขนุน เป็นจำปาดะพันธุ์พื้นเมือง มีลักษณะพิเศษคือเป็นรูปทรงกระบอก มีขนาดใหญ่และรสชาติหวานมัน

อาหารทะเล
เพราะที่นี่ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพชาวประมง ทั้งแบบธรรมชาติและแบบกระชัง หากมาที่นี่จะได้ทานอาหารทะเลสดๆ แบบเพิ่งขึ้นมาจากทะเล รสชาติอร่อยแน่นอน

สะพานติณสูลานนท์
เป็นสะพานที่เคยยาวที่สุดในประเทศไทย เชื่อมสองแผ่นดินใหญ่ คือฝั่งเมืองสงขลาและอำเภอสิงหนคร

สถาบันทักษิณคดีศึกษา
เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ที่ เป็นแหล่งเรียนรู้ของวัฒนธรรมภาคใต้ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงของภาคใต้และประเทศไทย รวมถึงมีร้านค้าขายสินค้าพื้นเมือง เช่นหัถกรรมย่านลิเพา ผ้าทอเกาะยอ ผลิตภัณฑ์จากเปลือกหอย และอื่นๆ ที่สำคัญ คือมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสาบสงขลาได้ถึง 360องศาเลย

เรือนไทยโบราญ
เกาะยอเป็นถิ่นที่มีวัฒนธรรมท้องถิ่นผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมจีน และวัฒนธรรมไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทั้งประเพณี ความเชื่อ และศิลปหัตถกรรม โดยเฉพาะวัฒนธรรมอันแสดงให้เห็นถึงภูมิ ปัญญาอันลึกซึ้งของชาวเกาะยอเกี่ยวกับการสร้างที่อยู่อาศัย สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในเกาะยอนี้

…………….

แต่รอบนี้เราขอพาไปชมความชิลของเกาะยอ นอกเหนือจากสิ่งที่คำขวัญไม่ได้บอกไว้ เพราะมันมีมากกว่านั้นเยอะ รับรองจะหลงรักเลยแหละ

……………..

สเน่ห์ของเกาะยอ

ในส่วนที่เราประทับใจ เห็นจะเป็น วิธีการทำประมงของที่นี่ค่ะ ระหว่างทางที่ขี่มอไซด์ชิลๆ เรียบทะเลสาบมาเรื่อยๆ ถ้าสังเกตบริเวณชายฝั่ง จะมีไซดักปลาดักกุ้ง และขนำ เรียงรายมากมาย เราจึงแว๊บไปพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา เพื่อดูวิวมุมสูงจากเกาะยอ


ส่วนบ้านหลังๆบนน้ำนั้นเรียกว่า “ขนำ” ที่ชาวบ้านเอาไว้เฝ้าไซ กันคนมาขโมย แต่ปัจจุบัน บางหลังได้เปลี่ยนขนำให้กลายเป็นโฮมสเตย์

ถ้ากลับหลังหันมาชมอีกทิศนึงของเกาะ จะเห็นสะพานติณสูลานนท์ เชื่อมเกาะยอและฝั่งอำเภอสิงหนคร

พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา
ต้องเสียค่าเข้าชม ผู้ใหญ่คนละ 50 บาท
นักศึกษา 20 บาท
นักเรียน  10 บาท
และชาวต่างชาติ 100 บาท

KOH YOR ISLAND TOUR

ลงมาจากจุดชมวิวบ้าง เราถามพี่ขายตั๋วที่พิพิธฯว่า

“อยากเข้าไปดูกระชังปลา ไปยังไงอะคะ”

คือ คอนเสปเดิมค่ะ แผนที่อยู่ที่ปาก งมๆไป ถามไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้เจอ

“ออกจากนี่ก็เลี้ยวซ้ายใต้สะพาน จะเป็นทางเรียบทะเลสาบฝั่งตะวันตก มีกระชังปลา มีโฮมสเตย์ มีร้านอาหารเยอะมาก เลือกเอาได้เลย”

ว่าแล้วก็ขับมอไซด์ตามที่พี่เค้าบอก ที่นี่มันดีตรงที่มีถนนเรียบฝั่งรอบเกาะเลย ขับมอไซด์นี่เพลินมาก ฝั่งถนนใหญ่จะแดดๆหน่อย แต่พอมาฝั่งหมู่บ้านเนี่ย ร่มรื่นมาก และกลิ่นทะเลก็แรงมากเช่นกัน 555

ก็ที่นี่มันเหมือนเป้นหมู่บ้านชาวระมงนี่นา
มันก็มีกลิ่นปลาเป็นธรรมดา

ขนำโฮมสเตย์

ระหว่างทาง
หน้าบ้านหลายๆหลัง ติดป้ายบอกว่าเป็นโฮมสเตย์ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนได้ บรรยากาศกลางน้ำแบบนี้น่าจะชิวไม่น้อยเลย จากในแผนที่เกาะยอที่เราเพิ่งโพสไป จริงๆแล้วมันมีโฮมสเตย์มากกว่านั้นค่ะ

ซึ่งก่อนเรามา เราก็ได้โทรติดต่อโฮมสเตย์ลุงเดชา (เกาะยอโฮมสเตย์) เพื่อเข้าพัก

จากที่เราอ่านในเนต ลุงเดชาเป็นผู้บุกเบิกการทำโฮมสเตย์บนเกาะยอ เนื่องจาก เมื่อก่อนนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ มาแค่แป๊ปเดียวแล้วก็กลับ จึงหาวิธีให้นักท่องเที่ยวอยู่ได้นานขึ้น เพื่อเป็นรายได้แก่ชุมชนเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งในช่วงแรก ลุงต่างโดนชาวบ้านหาว่าบ้า ทำโฮมสเตย์แล้วใครจะมาอยู่ แต่ดูตอนนี้สิ แทบทั้งหมู่บ้าน เปลี่ยนขนำตัวเองมาเป็นโฮมสเตย์กันหมด

เนื่องจากเรามาคนเดียว คุณลุงแนะนำว่าควรมากับเพื่อนๆดีกว่า เพราะขนำลุงเนี่ย มันเป็นหลังใหญ่ ต้องเหมา หลังละ 2000 บาท อยู่ได้เป็นสิบคนเลยนะ มากับเพื่อนสนุกกว่า เชื่อลุง

ด้วยความที่เราถนัดการอยู่แบบโฮสเทล เผื่อเจอเพื่อนใหม่ จึงขอลุงแจมกับแขกลุงด้วยได้มั้ย 555 แค่ห้องเดียว ไม่เอาทั้งหลัง
ลุงปฏิเสธมาทันใด

“ที่นี่เราให้ความเป็นส่วนตัวกับแขกทุกกรุ๊ป จะไม่มีการนำแขกมารวมกัน เอางี้ ถ้ามาวันธรรมดา ลุงจะลดให้แล้วกัน แต่วันเสา-อาทิตย์อย่างนี้ ไม่ได้จริงๆ แขกจองมาตลอด”

น่าเสียดายจัง คราวหน้าอาจจะลองมาวันธรรมดาดูบ้าง แล้วจะกลับมาถามลุงใหม่นะคะ 555

………….

อยากชิล
เมื่อเราไม่ได้อยู่โฮมสเตย์แล้ว จึงหาสถานที่ที่ได้นั่งชิล เปรียบเสมือนนั่งเล่นบนขนำมากที่สุด เลยเปิด instagram ดูสถานที่ที่คนเช็คอิน #kohyor บังเอิญไปเจอกันร้านนึง เป็นร้านกาแฟริมน้ำเลย อย่างที่ใจต้องการ

Cafe’ in

เป็นการ งม หาทางที่คุ้มค่ามาก ร้านนี้อยู่หลังบ้าน ถ้ามองมาจากถนนจะไม่รู้เลยว่าที่นี่เป็นร้านกาแฟริมน้ำ


เรียกว่าเป็นที่นั่งติดน้ำเลยดีกว่า ยังกับท่าเรือ แต่เสียดายนะ มาตอนบ่าย แดดจัดไปหน่อย ไม่งั้นคงไปนั่งชิลตรงนั้นแหละ

จริงๆคนที่ร้านก็เยอะนะ แต่เราไม่อยากถ่ายให้ติดคนอะ มันดูละเมิดสิทธิเค้าไปหน่อย แหะๆ

สั่งน้ำแตงโมมากินเบาๆ
ใจจริงนี่อยากจะจิบเบียร์เย็นๆ
แต่เราต้องขับรถมอไซด์กลับ เบาก่อนๆ
เก็บไว้ไปจัดที่หาดใหญ่ 555
(มีขายเบียร์ด้วยค่ะ)

นั่งเล่นหน้าเล BRISTRO cafe’

เกาะยอเป็นเกาะชิคๆ

ระหว่างที่เราขี่รถเล่นรอบเกาะ
บังเอิญเหลือบไปเจอบ้านไทยโบราณ ก็เลยแวะอีก

บ้านไทยหลังนี้
ถูกนำมาดัดแปลงเป็นร้านกาแฟ
แต่ยังคงคอนเสป เรือนไทยทรงจั่วยกถุนสูง
หลังคามุงด้วยกระเบื้องจากเกาะยอ
ตามแบบฉบับเรือนไทยโบราณของภาคใต้

ร้าน นั่งเล่นหน้าเล BRISTRO cafe’

ภายในถูกออกแบบสไตล์ย้อนยุค (Retro)
เก๋ดีนะ

สั่งชาเขียวมานั่งกินในป่ากล้วยข้างบ้าน บอกแล้วว่าเกาะยอเป็นเกาะชิคๆ 555

ทัวร์กระชังปลา

เรื่องราวสองข้างทางยังไม่หมดแค่นี้ พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงเรื่อยๆ แสงของท้องฟ้าก็เปลี่ยนไป เราหยุดมองขนำและกระชังปลาของชาวบ้านอีกครั้ง เวลาเปลี่ยน แสงเปลี่ยน ภาพที่ได้ก็คนละความรู้สึก

เงาท้องฟ้าที่สะท้อนลงมาที่น้ำ เหมือนเป็นกระจกเงาสะท้อนตัวตน

กลุ่มเด็กออกมาพายเรือเล่น

ลุงชาวประมงเริ่มเก็บอวนที่ปล่อยไว้

ฉันยืมมองขนำสเตย์ ที่ยังไม่มีโอกาสได้เข้าพัก นึกแล้วก็เสียดาย

ได้ยินเสียงเพลงจากคาราโอเกะก้องกังวาล จากขนำสเตย์ลุงดำ เพลงพบกันใหม่ของโพลีแคท มาไกลถึงขนำเกาะยอเลยหรือนี่ (แอบร้องเพลงคลอตามเบาๆ)

พลันให้นึกไปว่า ที่ลุงให้ชวนเพื่อนมากันเยอะๆเพราะอย่างนี้นี่เอง
ฉันนึกภาพตัวเองร้องคาราโอเกะอยู่บนขนำคนเดียวไม่ออกเลย
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ มันคงเป็นความทรงจำที่ตลกดี

มวลเมฆเริ่มลอยเข้ามารวมตัวกันต่อหน้าฉัน

ทันใดนั้นฝนก็ตกเทลงมาจ้าาาาาาา

เมื่อฝนมา ฉันคงต้องบอกลา….

บอกลา คำพูดอารมณ์เปลี่ยวพวกนี่ซะ
แล้วไปหาอะไรกินแทน 555

………..

011
ก็เลยหนีไปหลบฝนที่ร้านอาหารทะเล “มหัศจรรย์เกาะยอ”

เปลี่ยนโหมดค่าาา

จริงๆเค้าบอกว่า ถ้ามาเกาะยอให้กินปลากระพงขาวนะ เพราะว่าที่นี่เป็นแหล่งเลี้ยงปลากระพงขาวในกระชังที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ปลากะพงขาวที่เลี้ยงในเกาะยอได้ชื่อว่ามีเนื้อรสชาติ อร่อยที่สุด เพราะเป็นปลาที่เลี้ยงในระบบสามน้ าตามธรรมชาติ คือน้ าในทะเลสาบสงขลาจะมีช่วงระดับ ความเค็มอยู่ 3 ช่วง คือ ช่วงน้ าจืด ช่วงน้ ากร่อย และช่วงน้ าเค็ม “จึงเรียกกันว่าปลาสามน้ า”

ร่ายมาซะยาว แต่เราไม่ได้สั่ง เพราะกินคนเดียวไม่หมด T_T สั่งหอยนางรมมาแทน สดจริงๆค่า คอนเฟิร์มโดย ต้นอ้อ สายหอย 555

011
รอบหน้าไม่พลาดแน่นอนค่ะ
ทั้งโฮมสเตย์ทั้งปลากระพงนะ

สัญญา….

ถึงเวลาต้องกลับแล้ว
ก่อนที่ฝนจะเทมากกว่านี้
และมืดไปมากกว่า

ลาแล้วนะเกาะยอ
แล้ว “พบกันใหม่”

แต่การเดินทางของเรามันยังไม่จบ
ต่อจากเกาะยอจะเป็นเกาะอะไรอีก
ติดตามต่อได้ใน
http://www.facebook.com/highondreams
http://www.highondreams.com

Hello

TEST 1

FOLLOW ME

More Stories
Cruising in BANGKOK | Route 001 Hidden treasure รีวิวพาเที่ยวกรุงเทพในหนึ่งวัน