รีวิวภูเก็ต : ทริปคูลๆ ล่องเรือใบหรูที่ภูเก็ตกับเพื่อนสาว
นานมาแล้วที่เรียนจบ จบแล้วก็ทำงานหาเงิน พูดไปก็รู้สึกแก่ขึ้นมาทันทีอยากกลับไปเป็นนักศึกษา จะบอกว่า พอจบมาโอกาสในการเจอเพื่อนก็น้อยลง เพราะต่างคนต่างก็แยกย้ายกันไปมีชีวิตของตัวเอง
การใช้ชีวิตกับเพื่อนสาวสมัยเรียน เป็นช่วงชีวิตที่ลัลล้าที่สุด เรียนคณะเดียวกัน กลุ่มเดียวกัน เจอกันทุกวัน ปาร์ตี้กันทุกคืน แต่มาตอนนี้หนะหรอ แค่นัดเจอกันได้ก็หรูแล้ว แถมเที่ยงคืนปุ๊ปก็กลับบ้านนอน ใสๆสวยๆ เราไม่เคยจะนัดรวมตัวกันได้ไกลกว่านี้เลย
แต่มีอยู่ครั้งนึงนะ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่หลอกล่อเพื่อนไปด้วยกันได้ครบแก๊ง (5คน) ตอนแรกจะนั่งรถไฟไปสังขละบุรี แต่ดันตื่นสาย แต่งตัวนาน จนตกรถไฟจนได้ 555 สงสัยเราคงบู๊ไปหน่อย เพื่อนคงไม่เหมาะกับอะไรแบบนี้
เกริ่นนานไปละ เราว่าถ้าเราจะรวมกันได้อีกครั้งมันต้องใช้วิธีนี้
ต้องสบาย
(ปกติเราเที่ยวสายลุย แต่ครั้งนี้ต้องเพื่อเพื่อนหน่อยล่ะ แพลนเยอะๆ)
ต้องถูก
(นัดล่วงหน้านานๆเลย เก็บเงินก่อนกันเบี้ยว และจะได้จองตั๋วเครื่องบินถูกๆ)
ต้องสวย
(คือเข้าใจเพื่อนไง สายแต่งหน้าแต่งตัว ต้องไปที่ๆถ่ายรูปสวยๆคูลๆ)
เอาล่ะ สรุปว่า ไปเที่ยวภูเก็ตนี่แหละ และในทริป รีวิวภูเก็ต ครั้งนี้ จะมีรูปบุคคลเยอะนะคะ เพราะบางภาพ พอมีคนในภาพแล้วมันมีฟิลลิ่งมากกว่า
เราจองตั๋วเครื่องบินจากกรุงเทพ-ภูเก็ต ผ่าน Application Traveloka App ที่เราใช้ประจำ เพราะเปิด App เดียวก็ดูได้ทุกสายการบิน เอามาเทียบเวลาและเทียบราคาโดยไม่ต้องเปิดดูทีละเว็บสายการบิน ช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก นอกจากนั้นนะ Traveloka ชอบออกโปรโมชั่นอยู่บ่อยๆ เช่น โปรฤดูกาลต่างๆ หน้าฝนก็ลด หน้าหนาวก็ลด หน้าร้อนก็ลดราคา บางทีเป็นโปรโมชั่นวันศุกร์ลดราคางี้ก็มี จองด้วยแล้วรู้สึกคุ้ม 555
เช็คราคาไปภูเก็ตได้ที่นี่เลยฮธ
พวกเราถึงสนามบินภูเก็ตประมาณ 11 โมง
และทำการติดต่อเช่ารถไว้เป็นพาหนะในการเดินทางตลอดทั้งทริป ที่สนามบินมีบริการเช่ารถเยอะนะ แล้วราคาก็ถูกซะด้วย คุ้มกับการหารห้า เราเช่า VIOS สีขาวรุ่นไหม่ป้ายแดง ในราคา 1000 บาท รวมประกันและไม่มีค่ามัดจำ จากร้านในสนามบินนั่นแหละ ตอนคืนก็แค่หย่อนกุญแจลงกะปุก จบ (มันจะง่าย ถ้ามั่นใจว่าจะไม่ขับชนอะไรๆ และอย่าลืมถ่ายรูปรถรอบคันไว้ด้วยนะแจ๊ะ)
มีตั่งนั่งนอน ,ภูเก็ต
เปิด GPS เข้าที่พักก่อน ที่พักชื่อ มีตั่งนั่งนอน นี่เลือกเพราะชื่อน่ารักเลยนะเนี่ยยย มันไม่ใช่ที่พักในตัวเมืองเท่าไหร่ แต่มันก็สะดวกสบายกว่าถ้ามีรถขับ เพราะถ้าในเมืองจะหาที่จอดยาก และรถติด
จองที่พัก มีตั่งนั่งนอน กับ Traveloka ได้ที่นี่
ที่นี่มีห้อง DORM ด้วย ถ้าเรามาคนเดียวก็คงจะนอนห้องรวมนี่แหละ แต่รอบนี้ขอบาย นานทีจะมีเพื่อนมาเที่ยวด้วย 555 เรามากัน 5 คน เลยเปิด 2 ห้อง คือ SUPERIOR TWIN ROOM and DELUXE QUEEN room+extra bed
การออกแบบของที่นี่เป็นเหมือนบ้าน ตั่ง ก็คือเก้าอี้สตูแบบหนึ่ง มีทั้งใหญ่ ทั้งเล็ก แบบยาวแบบสั้น ได้ทั้งนั่งทั้งนอน แล้วที่นี่ก็มีตั่งอยู่ทุกมุม ทุกห้องจริงๆ เอาไว้ต้อนรับแขก แล้วยังมีปิ่นโตด้วยนะเออ น่ารักไปอีก
ตรงนี้เป็นส่วนของห้องนอนใหญ่ DELUXE QUEEN
และห้องนอนอีกห้อง SUPERIOR TWIN ROOM
SURFING IN KATA BEACH
แพลนวันนี้ จริงๆก็ไม่ได้วางอะไรไว้มาก เป็นเราเองที่อยากไปเล่นเซิร์ฟบอร์ด ก็เลยลากพวกนางมา หลังจากนั่งนอนเล่นบนตั่งแล้ว เราก็เปลี่ยนชุดเตรียมตัวลงทะเล แล้วขับรถกันไปที่หาดกะตะ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เล่นหรอก แต่เอาเซิร์ฟบอร์ดมาถ่ายรูปเฉยๆ
ช่วงนี้จะมีหมอกหนามาก จากควันไฟป่าที่อินโด ก็เลยได้ภาพจางลอย หมอกลงหนา ดังเช่นนี้แล
พลังหอย
เหนื่อยจากเล่นเซิร์ฟ ก็หิวกันสุดพลัง ในระหว่างทางที่ขับรถกลับ บังเอิญเจอร้านบุฟเฟ่ทะเล หัวละ 350 เข้าทางล่ะ ก็จัดกันเลยยย ร้านนี้มีหอยนางรมด้วยนะเออ แต่เค้าให้ฟรีแค่คนละตัวเอง สั่งซื้อเพิ่มก็ไม่ได้ด้วย T___T
เติมพลังหอย 555 แล้วกลับเข้าที่พัก นอนหลับอย่างสบายใจ
ท่าเรือ Dolphin Pier
เช้าวันนี้มีโปรแกรมนั่งเรือยอร์ชไปเกาะไม้ท่อน โปรแกรม B10VIP Sailing Catamaran Dolphin Quest ช่วงเวลา 10:00-16:00 ของบริษัทDiscover catamaran นี่แหละคือจุดหมายของทริปนี้
เพื่อการนี้ เพื่อสิ่งนี้ :P
ทาง discover catamaran นัดเราไปเจอกันที่ ท่าเรือเวลา 9 โมงครึ่ง เราขับรถไปกันเอง เพราะต้องเช็คเอาท์ออกจากที่พักเลย ห่างจากตัวเมืองประมาน 16 กม. จริงๆทางทัวร์มีบริการรับส่งจากที่พัก แต่ว่าเราอยากไปแหลมพรหมเทพต่อ ก็เลยขับไปเองค่ะ
DISCOVER CATAMARAN
สมาชิกบนเรือมีทั้งหมด 16 คน รวมพนักงานด้วย ซึ่งก็ไม่เยอะไป ไม่น้อยไป ยังรู้สึกสงบและเป็นส่วนตัวอยุ่
พวกเราก็มัวแต่ร่อนถ่ายรูปกันรอบเรืออยู่นาน ที่นั่งสุดพิเศษนี้ก็เลยถูกจับจองเป็นที่เรียบร้อย ที่ๆใครๆก็อยากจะมานั่งตรงนั้น อยากจะถ่ายรูปตรงนั้น อยากมีฟิลลิ่งเหมือนเจนนี่ เทียนโพ บนเรือใบสุดหรู ไว้อัพอินตาแกรมให้เพื่อนๆอิจฉาแต่ ไม่มีการลุกเลยค่ะ ไม่ว่าจะออกไปกินข้าวหรือจอดเรือไปดำน้ำ แง๊
โอเค ผิดที่เรามาช้าไป T_T
แต่ก็ใช่ว่ามุมอื่นจะไม่มีดี…เนอะ
ออกเรือคาตามารัน ไปเกาะไม้ท่อน
ทางทัวร์ คงจะเข้าใจหัวอกคนไทย เพราะเค้าขึงผ้าใบกันแดดไว้ที่หน้าเรือด้วย สำหรับคนมาทะเลแล้วกลัวดำ
เราใช้เวลาประมาณ 45 นาทีถึงเกาะไม้ท่อน ซึ่งในระหว่างทางนั้น เค้าจะมีขนม มีน้ำ มีผลไม้ เอามาเสิร์ฟให้ตลอดเหมือนเป็นคนพิเศษ
จริงๆแล้วเราสามารถซื้อเครื่องดื่มขึ้นมาบนเรือได้ โดยไม่เสียค่าเปิดค่ะ เราลืมถามเค้า ตอนนี้ยังเสียดาย น่าจะซื้อเบียร์ขึ้นมาด้วย ไม่งั้นน่าจะฟินกว่านี้มาก อิอิ
เพื่อนสาว
เรานั่งเล่นและนั่งคุยกันตามภาษา แก่แล้ว ก็มักจะคุยกันเรื่องอดีตอะเนอะ ขุดคุ้นทุกอย่างมาเม้ามอย
“เราไปเที่ยวด้วยกันครบแก๊งครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่วะ?” ถ้าไม่นับร้านเหล้า ก็เข้าค่ายอาสาปี2แหละมั้ง 555 นานไป๊
SNORKEL
เรือจะจอดให้ดำน้ำหลังเกาะไม้ท่อน ซึ่งตรงนี้มีปะการังและปลาเพียบบบบ!!
อย่างที่บอกไปว่า วันที่เราไปนั้น มีควันจากไฟป่าอินโดปกคลุมทั่วทั้งภูเก็ต ฟ้าอาจจะไม่ใสเท่าไหร่นัก แต่คอนเฟิมเลยว่า น้ำทะเลใสมาก อย่างเดียวที่จะติ คือ จุดที่จอดให้ดำน้ำ มันลึกไปหน่อย ว่ายลงไปดูปะการังไม่ถึง หรือเราไม่ดำน้ำไม่เก่งเองก็ไม่รู้ 555
ไม่เป็นไร ยังมีเต่า และฟามิงโก้สีชมพูให้เล่นอยู่ เล่นกันให้ดำไปข้างอะ
อาหารกลางวันบนเรือ
พอขึ้นจากเรือก็เป็นเวลาเที่ยงพอดี มีอาหารเตรียมไว้รอบนเรือเรียบร้อยแล้ว เป็นสลัด สปาเก็ตตี้ ไก่ทอด ผัดผัก และแพนง อร่อยดี แต่ตอนนี้เพื่อนเราสองคนไม่ไหว เพราะพอเรือจอดปุ๊บ มันก็เมาเรือเลย
5555
ล่องเรือดูโลมารอบเกาะไม่ท่อน
หลังจากทานข้าวเสร็จ ทางเรือจะส่งคนขึ้นเกาะไม้ท่อน (เสียค่าเข้าเกาะเพิ่ม 400B) หรือจะนั่งเรือไปดูปลาโลมารอบเกาะ
เนื่องจากพี่ในเรือบิ๊วเรามา ว่าปกติจะเจอปลาโลมาว่ายตามเรือเลยนะ เหมือนว่ายเล่นกับคลื่นไปพร้อมๆกับเรือพร้อมกับโชว์คลิปให้ดู ทำให้เราเลือกไปดูปลาโลมาอย่างไม่ต้องสงสัย แถมประหยัดค่าเข้าเกาะด้วย
บริเวรรอบเกาะไม้ท่อนนี้ เป็นที่อยู่ของฝูงปลาโลมาเกือบร้อยตัว แต่มันก็ไม่ได้โผล่ขึ้นมาให้เห็นทุกครั้งหรอก อยู่ที่ดวงแล้วเราก็มีดวงได้เห็นซะด้วยสิ กรี๊ดดดด มันมาเป็นคู่นะ เดี๋ยวผุดเดี๋ยวโผล่ ได้แค่นี้ ก็เป็นบุญตาแล้วค่ะ
รักพวกนางงง
บริเวณรอบๆเกาะไม้ท่อน จากบนเรือ โอ้ทะเลสีครามมม กับท้องฟ้าสีเทา 555
นั่งเรือกลับ
หลังจากลงไปดำน้ำมา พวกเราก็เลิกกลัวแดดกันแล้ว ออกไปรับวิตามิน D กันถ้วนหน้า บางคนก็นอนชิล อ่านหนังสือกันไป เพราะคลื่นช่วงนี้มันไม่ค่อยแรง แล้วเรือก็นิ่มด้วย
เราว่าการได้มานั่งเรือแบบนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ไหม่เลยนะ ลองนึกดูว่าถ้านั่งเรือเครื่องธรรมดามามันจะเป็นยังไง ปลาโลมาก็อาจจะไม่ได้เห็นก็ได้ เพราะเสียงเครื่องของเรือธรรมดาจะดังกว่า และจะไม่ได้ภาพแบบนี้ด้วยนะ
ถ้าใครต้องพักผ่อนแบบสงบ มีความส่วนตัว และความสบาย บางทีก็สบายจนหลับ 555 เราว่าตัวเลือกล่องเรือใบ ชิลไปกับทะเล ก็ไม่เลวนะ สำหรับคนรักความชิลเลย
จบทริป
หลังจากจบทริป 6 ชั่วโมงบนเรือ ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น เหยียบพื้นดินก้าวแรกถึงกับเซเลยทีเดียว
ที่ท่าเรือจะมีห้องน้ำไว้ให้บริการ เราเปลี่ยนชุดแล้วออกไปขับรถเล่นกันต่อ แหลมพรหมเทพ หลาดใหญ่ และปาร์ตี้หอยนางรมตัวละ 20 lol ก่อนจะคืนรถและนั่งเครื่องกลับกรุงเทพ ไฟลท์เที่ยงคืนครึ่ง ใช้ชีวิตในภูเก็ตซะคุ้มเลยทีเดียว
ทริปนี้ต้องขอบคุณ DISCOVER CATAMARAN ที่ชวนเราไปเที่ยว ทำให้เราได้ชวนเพื่อนอีกที เพื่อนที่ไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันมานาน เหมือนเป็นทริบกระชับมิตร ไว้ไปเที่ยวด้วยกันอีกเนอะ
บ๊ายบายนะภูเก็ต
แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า
ต้นอ้อ highondreams :}