CAPPADOCIA , TURKEY | ขึ้นบอลลูนตามฝันที่แคปพาโดเซีย ประเทศตุรกี

แคปพาโดเซีย (Cappadocia) ประเทศตุรกี

วิวบอลลูนนับร้อยตรงหน้า เมืองภูเขาหินประหลาดดั่งในเทพนิยาย และแสงพระอาทิตย์สีทอง ที่ค่อยๆ สาดสีลงบนท้องฟ้ากับพื้นดิน  นี่คือภาพในฝันการมาเที่ยวตุรกี ของทุกคนแน่นอน

อาณาจักร Cappadocia  ความอลังการของที่นี่คือเสาหินทราย  เนินประหลาด ภูเขารูปทรงไม่เหมือนที่ไหนๆ ที่ล้วนเกิดจากธรรมชาติทั้งหมด มันแปลกตาจนไม่คิดว่า สถานที่แบบนี้มีอยู่จริงบนโลกใบนี้  และฉันก็ได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วจริงๆ ไม่ได้ฝันไป…

มา นั่งลงก่อน จะเล่าให้ฟัง

ความเดิมตอนที่แล้ว เราบินจากกรุงเทพมาลงที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี และได้บินต่อมายังเมือง Kayseri ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินสำหรับคนที่แพลนมาเที่ยว Cappadocia แต่ดันตกเครื่อง เพราะฟังประกาศเปลี่ยนเกตสำเนียงตุรกีไม่รู้เรื่อง 5555 ทำให้แพลนเลื่อน ได้บินมาถึงเมือง Kayseri ก็ตี 1 แล้ว ก็เลยเปิดโรงแรมนอนแถวสนามบินเลย ค่อยเที่ยวจริงๆ ในวันถัดมา 

แคปพาโดเซีย  หรือคัปปาโดเกีย (กรีก: Καππαδοκία กัปปาโดเกีย; อังกฤษ: Cappadocia /kæpəˈdoʊʃə/) แผลงมาจากคำในภาษากรีก “Καππαδοκία” (Kappadokía) คือภูมิภาคตอนกลางของประเทศตุรกีส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดเนฟชีร์ (Nevşehir)

INDEX

คอนเท้นต์ซีรีส์ ตุรกี นี้ จะมีทั้งหมด 7 ตอน แบ่งเป็นเมืองๆ จะได้อ่านง่าย เซิร์ดหาได้ง่ายๆ เป็นการเที่ยวเองทั้งหมด ไม่ซื้อทัวร์ เช่ารถขับบางเมือง เพราะขี้เกียจขับตลอดเวลา ครึ่งทริปแรกจะไปเมืองท่องเที่ยวเด่นๆที่คนมาเที่ยวตุรกีต้องไปแน่ๆ เช่น Istanbul / cappadocia / pamukkale ส่วนครึ่งทริปหลังเป็นการเดินทางแบบเอาแต่ใจ อยากเห็นเมืองที่คนไทยไม่ค่อยไป travel off the grid ไปขับรถเลาะถนนริมทะเล สามารถกดอ่านรายละเอียดแต่ละตอนได้เลยจ้า

• 1.TURKEY แพลนเที่ยวตุรกีโดยรวม การเตรียมตัว สถานที่เที่ยว
  https://www.highondreams.com/travel/turkey-15days-itinerary-ตุรกี/
• 2.ISTANBUL
  https://www.highondreams.com/travel/istanbul-turkey-อิสตันบูล/ 
• 3.CAPPADOCIA (THIS CONTENT)
  https://www.highondreams.com/travel/cappadocia-turkey/
• 4.PAMUKKALE
  https://www.highondreams.com/travel/pamukkale-turkey/
• 5.MARMARIS
  https://www.highondreams.com/travel/marmaris-turkey/
• 6.FETHIYE
  https://www.highondreams.com/travel/fethiye-turkey/
• 7.ANTALYA
  https://www.highondreams.com/travel/antalya-turkey/

ISTANBUL to CAPPADOCIA

สำหรับคนที่ต้องการเดินทางจากอิสตันบูล ไป คัปปาโดเซีย มี 2 สนามบินที่ไปได้คือ Kayseri และ Nivsehir และต้องต่อรถไปที่ Goreme National Park จังหวัด Nevsehir ซึ่งเป็นเป็นจุด Base point ของนักท่องเที่ยวใน Cappadocia

เราเลือกบินไปลง Kayseri เพราะ มีไฟล์ทให้เลือกหลายเวลา มากกว่าลงที่ Nivsehir แต่มีก็ระยะทางเข้าเมืองไกลกว่า และจะต้องใช้เวลาขับรถต่ออีก 1 ชั่วโมง ไป Goreme

มีสายการบิน Low cost ภายในประเทศตุรกีที่ราคาไฟล์ทละไม่ถึงพัน อยู่เจ้านึง คือ Pegasus Airlines จองออนไลน์ได้ที่ www.flypgs.com เราจองไฟล์ทแรกคือ Istanbul-Gokcen airport (SAW)  to  Kayseri airport (ASR) ~ 33usd

*เสียค่าเปลี่ยนตั๋วเพราะตกเครื่องอีกคนละ ~25usd

เช่ารถไปแคปพาโดเซีย CAR RENTAL

วันถัดมา เราตื่นแต่เช้า เพื่อไปเช่ารถจากบริษัทเช่ารถในสนามบิน  แล้วออกเดินทางกันต่อ เป้าหมายปลายทางอยู่ที่เมือง Goreme  ที่แพลนไว้คือเช่ารถมา 3 วัน จากสนามบิน Kayseri และจะคืนรถต่างสถานที่ คือสนามบิน Nivsehir เพราะจะนั่งรถบัสข้ามเมืองต่อ ไม่ต้องใช้รถแล้ว

ถามว่าทำไมไม่เช่าและคืนที่เดียวกัน ปรหยัดเงินกว่า ไม่ต้องเสียค่าคืนรถต่างสถานที่ ก็เพราะระหว่างทางจาก Kayseri ไป Goreme จะได้เห็นวิว Mt.Erciyes ภูเขาน้ำแข็งที่สูงที่สุดใน Cappadocia

เราเช่ารถกับบริษัท Sixt rent a car www.sixt.com สามารถจองออนไลน์มาก่อนก็ได้ แต่เราใช้วิธีโทรจองในวันที่จะเช่าเลย 

ระหว่างทางก็มีแวะถ่ายรูปบ้าง ออกนอกเส้นทางบ้าง ซึ่งก็กินเวลาไปเกือบทั้งวัน 

เราตื่นเต้นกับภูเขาหิมะระหว่างทางมาก เรียกว่าแทบจะขับรถอ้อมรอบเขาเลยก็ว่าได้ เว่อจริง ก็คนมันไม่เคยเห็นอะเนอะ เห็นเขาจากไกลๆไม่พอ อยากเข้าไปใกล้กว่านี้ ก็เลยขับตาม MAP เข้าเมือง Develi ที่คิดว่าน่าจะอยู่ตีนภูเขานี้แหละ 

และอีกความตื่นเต้นคือ นี่เป็นการขับรถพวงมาลัยซ้ายครั้งแรกในชีวิต ช่วงแรกมันก็จะเกร็งๆ ซ้อมขับที่โล่งๆก่อน พอเข้าเมืองเท่านั้นแหละ งงตอนเลี้ยวที่สี่แยก มันต้องขับเข้าช่องไหนวะ 555

และก็….ป๊างงง!!!

นั่นแหละค่ะ ท่านผู้ชม เราขับรถชนรถบัสที่จอดอยู่ข้างทางตรงหัวมุมสี่แยกไฟแดงพอดี  เสยกระจกข้างของรถเราหลุดออกไป ออกไปเคลียกับคนขับรถก็คุยกันไม่รู้เรื่อง เค้าไม่พูดอังกฤษ เราก็ฟังไม่รู้เรื่องดิ ละก็จบด้วยการ “’งั้นช่างมึง…กุไปละ” หมายถึงเค้านะ ไม่ใช่กุ  เพราะรถบัสไม่ได้เป็นอะไรเลย แต่รถเรากระจกหลุด

ซวยตั้งแต่เริ่มเลยจ้า 

*ทุกครั้งที่เช่ารถ อย่าลืมซื้อประกันความเสียหายเพิ่ม ก็เลยไม่ต้องจ่ายอะไรเลย กระจกข้างที่ตกไป หยิบมาประกอบต่อได้ ขับต่อได้ แค่ปรับกระจกอัตโนมัตไม่ได้แล้ว และสั่นๆตอนขับตลอดเวลา 

ขับไปเรื่อยๆ พอวิวข้างทางเริ่มเปลี่ยนจากทุ่งหญ้าเป็นภูเขารูปทรงกรวยแปลกๆ ก็เริ่มรับรู้ได้ว่าเราใกล้จะถึงแล้ว ขับต่อเข้ามาถึงจน Goreme ตอนพระอาทิตย์ตกดินพอดี แวะถ่ายรูปก่อนเข้าโรงแรม

GOREME NATIONAL PARK

อธิบายปรากฎการณ์ธรรมชาติของเมืองที่เรากำลังจะไปนี้กันซักหน่อย ที่ เค้าเรียกกันว่าเมืองถ้ำ แห่งอุทยานแห่งชาติโกเรเม่

ถ้ำบนเนินและหินรูปกระจู๋ ที่เห็นเนี่ย เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติ Göreme ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO  มีลักษณะเป็นหินแท่งๆ และปลายแหลมเหมือนเห็ดยักษ์  (หรือจะมองเป็นอะไรก็แล้วแต่จินตนาการ) หลายๆแท่งอยู่รวมกัน เพราะเกิดจากการทับถมของวัตถุต่างๆ ที่ระเบิดจากภูเขาไฟ ในระแวกนั้น เมื่อระเบิดสะสมมาหลายล้านปี ก็ก่อตัวเป็นแท่งๆ  หินพวกนี้ถูกกัดกร่อนได้ง่าย  คนในสมัยนั้นก็เลยขุดคว้านเข้าไปในหิน สร้างเป็นบ้านของตัวเอง รวมไปถึงโบสถ์และศาสนสถาน ทั้งแบบที่อยู่ใต้ดิน และแบบหอคอยในเสาหินนั่นเอง…

ทำให้ที่นี่มันอเมซิ่งจนกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางทั่วโลก

Location : https://goo.gl/maps/hRWEsmtM5hA2doXBA

TRAVEL INN CAVE HOTEL

นอนโรงแรมถ้ำ (Cave Hotel) ถือว่าเป็น Mission ของการมาเที่ยว Cappadocia เลยนะ ในเมือง Goreme นี้ก็มี Cave Hotel มีอยู่ทั่วๆไปเลย ลองเซิร์ดดู แต่มันก็จะมีบางโรงแรมที่เป็นถ้ำปลอม  ก่อปูนสร้างให้เหมือนอยู่ในถ้ำงี้  เพื่อขายนักท่องเที่ยว

สำหรับที่พักคืนแรกเราอยู่ที่ Travel Inn cave resort เป็นโรงแรมถ้ำแบบ Budget hotel แบบมีดาดฟ้าให้ชมวิว ถือว่าดีเลย ในราคา 1,2xx บาท ต่อคืน ส่วนเป็นถ้ำจริงหรือถ้ำปลอมอันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน 555

ดูรายละเอียดโรงแรมได้ที่นี่ http://www.travelinncavehotel.com/
BOOKING : https://bit.ly/3lcEBVs 
AGODA : https://bit.ly/3j3pomZ 

ดาดฟ้า ที่ดูวิวบอลลูนได้ เหมือนโรงแรมยอดฮิตใน IG แต่ที่นี่ต้องเตรียมพร๊อพเองนะ ภาพนี้เราขึ้นมาตอนบอลลูนลงหมดแล้ว

ที่โรงแรมนี้ราคาถูกน่าจะเพราะโลเคชั่นโรงแรมอยู่บนเนินเขา ทางเข้าเล็กมาก รถสวนกันไม่ได้ ซึ่งเราว่ามันควรจะปรับให้เป็น Oneway เถิด สงสารคนขับสกิลอย่างฉันด้วย พอมีรถสวนทีนี่ถอยตาแหก ได้แต่ภาวนาว่าอย่ามีรถเข้าซอยมาตอนนี้เลย เสียเวลามาก และโชคดีที่ไม่ชนอะไร (บ่นๆ)

HOT AIR BALLOON IN CAPPADOCIA

เชื่อว่าการขึ้นบอลลูนดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ Cappadocia อยู่ใน Bucket List นักท่องเที่ยวหลายๆคน เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ทริปนี้ ฉันจะต้องได้ขึ้นบอลลูน ครั้งแรกในชีวิต 

สิ่งที่ควรรู้ก่อนมาก็คือ บอลลูนที่ Cappadocia ไม่ได้ขึ้นทุกวันนะ ขึ้นอยู่กับลม ฟ้า อากาศ ของวันนั้นๆ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเองด้วย ก็เลยอยากแนะนำให้เผื่อเวลามาพักที่นี่ซักหน่อย ถ้าไม่ได้ขึ้นวันนี้ รอพรุ่งนี้ก็อาจจะได้ขึ้นก็ได้ แต่บางคนซวยหน่อย บอลลูนไม่ขึ้นติดกัน 6 วัน ก็คงต้องกลับมาเที่ยวตุรกีอีกรอบ

เราสามารถซื้อทริปบอลลูนได้จากทุกๆโรงแรมที่เราพักใน Goreme เลย แล้วแต่ความสะดวก ซึ่งเราก็หาข้อมูลก่อนมาว่า รายละเอียดบอลลูนแต่ละอันไม่เหมือนกันนะ เรทราคาเริ่มตั้งแต่ 100USD ไปจนถึง 300USD ขึ้นอยู่กับขนาดบอลลูน จำนวนคนในทริป ห้องรับรอง ของว่าง แชมเปญฉลองบินจบ ออกใบ Certicicate ฯลฯ  ซึ่งหากจองผ่านโรงแรมเค้าไม่ได้มีตัวเลือกให้เรา ก็เลยตัดสินใจออกไปจองที่ร้านทัวร์เองแทน (อันนี้เจ้าของโรงแรมก็ดูเหมือนโกรธเราอยู่ ที่เราไม่จองกับเค้า ตอนมาถึงคุยดีมาก พอเราจองที่อื่นปุ๊ป เชิดใส่เลยอะ)

เราได้ทริปขึ้นบอลลูนมาในราคากลางๆ 140USD ไม่เอาใบเซอร์ หรือประมาณ 4500บ. จองคืนนี้ บินพรุ่งนี้เช้า เราว่าราคานี้คือคุ้มอะ ถ้าเทียบกับบอลลูนที่วังเวียง(ลาว) หรือพุกาม(พม่า) ที่ราคาเป็นหมื่น

ขึ้นบอลลูนตามฝันที่แคปพาโดเซีย

รถตู้จากทัวร์ มารับเราที่โรงแรมตอนตี 4 แหกขึ้ตาตื่นมากแม่ ต้องมานั่งรอสแตนบาย กินขนม ชา กาแฟ ในห้องรับรองใกล้ๆจุดปล่อยบอลลูน เราใช้เวลานี้แหละ หลับต่อจ้าาา ถูกเรียกอีกทีตอนตี 5 ครึ่ง

พอถึงเวลาจะขึ้นจริง มันก็เสียวๆ ปนตื่นเต้นนะ กรุ๊ปเรามี 20 คน เฉลี่ยคนตามช่องในตะกร้าบอลลูนให้เท่ากัน มี Pilot อีก 1 คนอยู่ช่องกลาง จังหวะจุดไฟนี่อย่างเสียว เสียงซู่วๆ หัวใจนี่เต้นแรงมาก ขึ้นบอลลูนครั้งแรกในชีวิต 

บอลลูนค่อยๆ ลอยขึ้นไป ลอยขึ้นไป

อ่าาา ฟินมากกกกกกกก~~~

ความอลังการของที่นี่คือเสาหินทราย  เนินประหลาด ภูเขารูปทรงไม่เหมือนที่ไหนๆ ที่ล้วนเกิดจากธรรมชาติทั้งหมด มันแปลกตาจนไม่คิดว่า สถานที่แบบนี้มีอยู่จริงบนโลกใบนี้

เหมือนเราเป็นโดรนเลย มองโลกจากมุมนี้มันดีอย่างนี้นี่เอง 

กินลมชมวิวบนบอลลูนเสร็จ ก็แลนดิ้งลงมาอย่างปลอดภัย แล้วเปิดแชมเปญฉลอง Mission ที่ Completed  ซึ่งมิสชั่นนี้ไม่ได้มากันได้ง่ายๆ เพราะบอลลูนมันไม่ได้บินทุกวัน มันอยู่ที่ลมและอากาศด้วย เค้าจะขึ้นเมื่อแน่ใจว่าปลอดภัยเท่านั้น 

และวันนี้….เราโชคดี :}

BREAKFAST 

หลังจากจบทริปบอลลูน ประมาณ 9-10 โมง เข้าที่พักทานอาหารเช้า ที่โรงแรม เซตอาหารเช้าท้องถิ่นตุรกีคือไม่ค่อยใช่ทางเราเลย ชีส 4-5 ชนิด ทานกับมะกอก ลูกเกด โยเกิร์ต แต่ยังพอมีเนื้อสัตว์อย่างแฮม ฮอทดอกอยู่บ้าง 

ROADTRIP IN CAPPADOCIA

เราเช่ารถขับไปเที่ยวตามรูททัวร์ One day trip Cappadocia  แบบที่เค้าขายๆกันในร้านทัวร์ทั่วๆ ไปอะ มันจะมีอยู่สองเส้นทางให้เลือก คือ Red tour และ Green Tour  หยิบโบชัวร์มา ปักหมุดแล้วขับตามเส้นทางเลย 555 คือแพลนมาไม่เยอะ แต่ก็แอบมีนอกลู่นอกทางบ้าง ตามภาษาคนชอบหลงทาง

ถ้าใครไม่ได้เช่ารถขับเที่ยวก็สามารถซื้อทัวร์แบบ Join Group กับคนอื่นได้ โดยเส้นทางที่เราขับวันนี้คือ Red Tour route ค่ะ

MT. ERCIYES

ภูเขาเออสิเยส เป็นภูเขาที่สูงที่สุดใน Cappadocia ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน ก็สามารถมองเห็นนางอยู่ในสายตาตลอด แต่นางก็ไม่ได้โผล่มาให้เห็นทุกวันหรอกนะ จะได้เห็นแค่วันฟ้าใสๆ และวันที่หมอกบนยอดเขาหลบให้ เท่านั้นแหละ นอกจากนั้นยังเป็นจุดกำเนิดของทัศนีภาพเมือง Cappadocia อันแปลกตา พวกภูเขาหินทรงเห็ดก็เกิดจากตะกอนเขม่าจากภูเขาไฟเออสิเยสตอนมันประทุ เมื่อหลายล้านปีก่อน

คนที่ชอบถ่ายภาพ Landscape ต้องชอบวิวที่นี่มากแน่ๆ

Underground City

ในบริเวณของ Cappadocia มีเมืองใต้ดินกระจายอยู่ทั่วกว่า 40 แห่ง สันนิษฐานว่าช่วงแรกสร้างขึ้นเพื่อใช้หนีทหารโรมัน ในยุคที่มีการช่วงชิงพื้นที่อาณาจักร ประชากรทั้งหมดจึงต้องหลบเข้าไปอาศัยอยู่ใต้ดิน บางครั้งต้องหลบอยู่นานถึง 6 เดือน บางครั้งเป็นปี ไม่ได้เจอแสงเดือนแสงตะวันกันเลย 

สำหรับเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ Kaymakli Underground City (นครใต้ดินไคมัคลี) ภายในแบ่งเป็นห้องครัว ห้องเก็บอาหาร ห้องทำไวน์ ที่อยู่อาศัย ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ รวมถึงโบสถ์คริสต์ โรงเรียน โรงพยาบาลด้วย ซึ่งระดับความลึกจากพื้นลงไปถึง 10 ชั้น มีคนเคยอาศัยอยู่เป็นหมื่น ไม่ต้องกลัวว่าจะหายใจไม่ออก เพราะเค้ามีช่องอากาศต่อตรงลงมาจากพื้นดินเป็นระยะ และมีแม่น้ำไหลผ่านชั้นไต้ดินด้วย ลองจินตาการภาพคนอยู่ในนั้นกันดู

แต่พื้นที่ทางเดินบางจุดค่อนข้างแคบ ต้องเดินแบบย่อๆ มุดๆ หน่อย คนที่มีปัญหาที่เข่า กลัวที่แคบ หรือตัวใหญ่มาก อาจจะไม่สามารถลงมาในเมืองใต้ดินนี้ได้

Kaymakli Underground City, Nevshir, Turkey
Open / Close : Summer 8.00-19.00 / Winter 8.00-17.00
Entrance fee : 25TUR
Location : https://goo.gl/maps/3oE2mkUwBJH4Jvkv5

ร้านขายของฝากหน้าทางเข้าเมืองใต้ดิน

ขอซื้อธงตุรกีจากร้านของชำบ้านๆข้างทาง มาเป็นของที่ระลึก แต่เจ้าของร้านใจดี ให้เลย ไม่ต้องจ่ายตังค์ ว๊าวว๊าว

TURKISH TEA TIME

ระหว่างขับไปสถานที่เที่ยวถัดไป ก็เจอร้านชาข้างทาง  โอ้โห แกร๊…. นี่คือวิวจากร้านน้ำชาบ้านๆ ข้างทางหรอเนี่ย วิวเทือกเขาหัวโล้นที่อยู่ดีๆ ก็เป็นหน้าผา  หลุบลึกลงไป เหมือนแกรนด์แคนยอนอะ

เราสั่งชาตุรกี แก้วละ 18 บาท พอเป็นพิธี แล้วก็เดินไปดูวิว สวยมากกกกกกกกกก ให้ภาพมันเล่าเรื่องเลยก็แล้วกัน กับชุดที่เตรียมตัวมาเวอร์ที่สุด กว่าทุกทริปที่เคยไปมา

Ihlara valley

เราหยุดถ่ายเล่นที่ร้านกาแฟอยู่นานจนฝนตก  เลยขับรถต่อไปทางเข้าอุทยาน Ihlara valley  ละเดินลงเขาไปสำรวจข้างในร่องแคนยอนนั้น  ซึ่งมีความลึกถึง 150 เมตร บรรไดชันโคตร มีถ้ำที่เคยมีคนอาศัยอยู่ข้างในจริงๆ ขุดเจาะหินก่อนสร้างด้วย Man made มีทั้งบ้าน มีทั้งโบสถ์ และมีแม่น้ำ ไหลผ่าน กลางหลุบเขา

ถ้าจะเดินสำรวจให้ทั่ว ว่ามีอะไรอีก มีระยะทาง Trek เต็มๆ คือ 12 กิโล!  พอรู้เท่านั้นแหละ หันหลังเดินขึ้นบันไดกลับเลยจ้าา 555 ชุดไม่พร้อมลุย

Open/Close : Everyday 6.30 am - 11 pm on summer / on winter will close earlier
Entrance Fee : 80TL (Including hot spring / cleopattra pool / Hierapolis ruins)
Location : https://goo.gl/maps/5UM6zo4hpFj7MjXF9 

คิดดูว่าคนสมัยนั้นขุดเจาะถ้ำหินด้วยตัวเอง โดยไม่มีเครื่องจักรช่วย ต้องแข็งแรงมากแน่ๆ

ภาพเขียนฝาผนังโบราณภายในถ้ำโบสถ์

Selime Village Viewpoint

อีกจุดที่เราแวะชมอยุ่ไกลๆ ก็คือ Selime Village ที่ได้ยินมาว่าถูกนำมาเป็นฉากถ่ายทำหนังเรื่อง STARWARS ไม่รู้ฉากไหน เพราะเราก็ยังไม่ได้ดูนะ แต่ก็พอจะเข้าใจว่าที่นี่มันสวยประหลาดจนเหมือนอยู่บนดาวดวงอื่นเลย

Anatolian House Cave hotel

กลับมาที่เมือง Goreme เข้าเช็คอินที่พักใหม่ Anatolian House Cave hotel ซึ่งเป็นโรงแรมถ้ำของจริง (ผสมถ้ำปลอมบางห้อง)  ห้องพักอยู่ในถ้ำจริงๆ มืดๆ เย็นๆ เสียงก้องๆ แต่ไม่หลอนนะ มันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงแรม Anatolian House
Website : https://www.anatolianhouses.com.tr/
AGODA : https://bit.ly/3fAEUGw
BOOKING : https://bit.ly/3yk8xD5
LOCATION : https://goo.gl/maps/nZdc8W1uqiUyJEq76 

แต่ละห้องมี Layout ไม่เหมือนกัน เราจองห้อง Suite cave บริการดั่งโรงแรม 5 ดาว  เป็นถ้ำเวอร์ชั่น Luxury ที่ยังเก็บ Texture ของหินธรรมชาติไว้ มีงานศิลปะสไตล์อนาโตเลีย และพื้นกระเบื้องตั้งแต่สมัยโรมันตกแต่งอยู่ มีอ่างจากุซซี่ในห้องด้วย 

แถมยังมีสระว่ายน้ำ Outdoor & Indoor สระว่ายน้ำอุ่น สระว่ายน้ำเย็น มีสปา  ซาวน่า Turkish bath หรือ Harmam อาบอบนวดหินอ่อนสไตล์ตุรกี. มีดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวเมืองทั้งเมือง 

โต๊ะหินอ่อนอุ่นๆ สำหรับ Turkish bath ให้เราเอาตัวไปนอนนาบหิน ความอุ่นของหินจะทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายดี ฟิลประมาณแช่ออนเซนในญี่ปุ่นอะ มีความ Traditional

ช่วงเช้าจะมีวิวบอลลูนนับร้อย ในวันที่อากาศดีๆ พอได้ไปยืนชมวิวแล้วเหมือนเป็นเจ้าหญิงแห่งอนาโตเลียอะ แต่เราไม่ได้ขึ้นไปถ่ายตอนบอลลูนให้ดูนะ  เพราะตอนนั้นออกไปถ่ายวิวข้างนอก 

เช้าวันที่ 2 

พวกเราตื่นกันแต่เช้าเพื่อออกมารอดูบอลลูนขึ้น ตอนตี 5 คราวนี้จะรอดูจากฝั่งพื้นดินดูบ้าง แอบหยิบพรมตกแต่งห้องของโรงแรมไปเป็นพร๊อพด้วย 

*แนะนำว่าให้ปักหมุดวางแผนจุดที่จะดูพระอาทิตย์ขึ้นก่อนมา เพราะถ้าจะมาแรนด้อมหาจุดสวยๆตอนพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นมันหายากจริง รถเยอะ และหาที่จอดข้างทางยากด้วย ของเรานี่พลาดไป กว่าจะหาจุดดีๆได้ พระอาทิตย์ก็ขึ้นไปแล้ว

Carpet shop

ขอปิดท้ายอีกจุดหนึ่งที่เหล่า Instagramer นิยมไปถ่ายกันใน Cappadocia ก็คือ ร้านขายพรม Carpet shop ซึ่งมันก็จะมีอยู่หลายร้าน เราเลือกเข้าร้านที่อยู่ใกล้ที่พักที่สุด 

พอเราเข้าร้านไปจะมีคนขายเข้ามาต้อนรับ ด้วยคำพูดว่า ตามสบายเลย เวลคัมๆ ไม่ซื้อไม่เป็นไรนะ แต่อยากเล่าให้ฟังเฉยๆ นี่คือพรมจากประเทศปากีสถานนะ อันนี้พรมที่แพงที่สุดในร้านนะ อันนี้พรมลายโบราณนะ นี่พรมขนอูฐ โอ้ยย ความรู้เยอะมากแม่ ระหว่างเค้าพูดไปเราก็ถ่ายรูปไป ห้องนั้น ห้องนี้ 

พูดคุยจนคอแห้ง คนขายถาม “เอาชามั้ย?” อะเอาก็เอา นี่มีชุดท้องถิ่นปากีด้วย ลองได้นะๆ อะลองก็ลอง แถมคนขายถ่ายรูปให้ด้วย จัดพร๊อพ จัดที่ เริ่มรู้สึกว่านี่ร้านพรม หรือสตูดิโอถ่ายภาพกันแน่วะคะ  และก็เริ่มคุยกันละว่าจะโดนเก็บตังค์เท่าไหร่ มาตุรกีแต่ถ่ายพรมกับชุดประจำชาติปากีทำไมก่อน

สุดท้าย สงสัยคุยกันถูกคอ หรือไม่ก็พวกราหน้าตาดี  5555 เจ้าของร้านก็เลยมาขอถ่ายรูปด้วย ละคิดเงินแค่ค่าชาคนละ 5TRY ซึ่งเราก็โอเค เพราะถ่ายรูปรอบร้าน อยู่นานเป็นชั่วโมงจริง 555

Overnight Bus

ตอนเย็นของวันสุดท้ายในแคปพาโดเซีย เราทำการเช็คเอาท์ ขับรถไปคืนรถเช่าที่สนามบิน Nevsehir ละนั่ง Airport Bus กลับมาในตัวเมือง Goreme รอเวลาขึ้นรถ Overnight Bus ไป Pamukkale ต่อ รอบ 8pm ท่าขึ้นรถ(Bus station) อยู่ในตัวเมืองเลย ถามข้อมูลและซื้อตั๋วจากร้านขายทัวร์ได้

เป็นอันจบทริปเมือง Cappadocia เรียบร้อย
โปรดติดตามต่อไป ที่เมือง Pamukkale

ขอบคุณค่ะ

Story : ต้นอ้อ high on dreams :}
Photographer : ฟาง อารมณ์นิยม