ทริปนี้เกิดจาก
มีเวลาว่างแค่ 2 วันแต่ดันอยากไปทะเล
นั่งมองแผนที่อยู่นาน ว่ามันจะไปไหนได้อีกนะ
เกาะล้านก็ไปแล้ว เกาะเสม็ดก็ไปมาแล้ว
เอ๊ะ
มันเหลืออยู่อีกที่นึงนี่นา ใกล้กรุงเทพมาก แถมยังไม่เคยไป
นี่เลย ไปศรีราชา แล้ว One day trip ไปเที่ยวเกาะสีชังก็ได้
ได้แผนดังนี้ก็โทรชวนเพื่อนเลยจ้า
เราไปกันแบบไม่มีรถส่วนตัว
นั่งรถทัวร์จากหมอชิตไปเลยจ้าาา
ส่วนที่พัก เราพักที่ Balcony Seaside Sriracha
ที่นี่แหละใกล้ดี แถมมีรถรับส่งเข้าตัวเมืองฟรี หรือไปพัทยาก็ได้
DAY 1
8.00 ออกจากกรุงเทพ (ศรีราชาทัวร์)
10.00 ถึงศรีราชา
11.00 ข้ามไปเกาะสีชัง / กินอาหารทะเล / ทัวร์เกาะ / ชมวิว / ไหว้พระ
17.00 กลับมาพักผ่อนที่โรงแรม / แช่ Onsen
DAY 2
10.00 พักผ่อน
12.00 Check out ไปเที่ยว Harbor Pattaya ด้วย Shuttle bus ของโรงแรม
13.00 ปีนผา จั๊มปิ้ง ให้คุ้มๆ
17.00 กลับ
แพลนไว้หลวมๆ จะได้เสพย์แต่ละที่ให้เต็มที่เนอะ
#balconysrircha
www.balconythailand.com
เรากับเจนเจอกันที่หมอชิต
แล้วซื้อตั๋วศรีราชาทัวร์ได้รอบ 9 โมงเช้า ราคา 90 บาท
บอกเค้าว่าลงตึกคอมศรีราชา เพราะแถวนั้นจะมีตุ๊กๆต่อไปเกาะสีชังได้
หรือต่อไปที่พักก่อนก็ได้
ท่าเรือเกาะลอยช่วงนี้ปิดปรับปรุงอยู่
ถ้าจะไปเกาะต้องไปขึ้นอีกท่านึง ถามตุ๊กๆได้ เค้าน่าจะรู้ดีกว่า
เรือข้ามไปเกาะสีชังจะออกทุกชั่วโมง
และตรงเวลามากๆ สมมติไปเที่ยง 5 นาที
ก็ตกเรือแล้วนะเออ ต้องรอไปอีกชั่วโมงนึง 555 นี่โดนมาแล้ว
ราคาตั๋ว 50 บาทต่อคน ใช้เวลาถึงเกาะประมาณ45 นาที
สามารถซื้อตั๋วที่หน้าท่าเรือได้เลย
ช่องเขาขาด (ช่องอิศริยาภรณ์)
จุดนี้คือเวิลมาก สำหรับเรานะ
ให้คะแนนเป็นอันดับ 1 ใครมาสีชังต้องมาโดนที่นี่
ปกติแล้วจุดนี้เค้าจะมาชมพระอาทิตย์ตกดินกัน
เรามาซะตอนกลางวันแสกๆ แต่ก็เพื่อจะได้เห็นน้ำฟ้าๆแบบนี้ไง
ไม่คิดว่าเกาะสีชังจะเป็นทะเลที่น้ำใสขนาดนี้ สวยมากกก
นี่อยู่ใกล้ๆกรุงเทพเองนะ
ที่เรียกว่าช่องเขาขาด
น่าจะเป็นเพราะที่นี่เป็นหน้าผาตัดหยึกหยัก
เหมือนมันขาดมั้งนะ
มาถึงเกาะ จะมีให้เช่ามอไซด์
หรือจะไปกับตุ๊กๆพร้อมไกด์คนขับก็ได้
เราเอาแบบหลังค่ะ สะดวกกว่า ไม่ต้องแว๊นตากแดด
คือมาแบบสวยๆอะ ไม่ได้บู๊ๆ
พี่ตุ๊กๆก็จะพาแวะตามจุดต่างๆรอบเกาะ
อยากไปไหนก็บอกได้ อยากอยู่ตรงไหนนานๆก็บอก
เค้าจะเหมาเป็น ONEDAY TRIP
สะพานอัษฎางค์
สะพานนี้เหมือนเป็นจุดขายของเกาะสีชังเลย
ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปตรงนี้แหละ
สะพานนี้เป็นสะพานไม้สักสีขาว ทอดยาวไปในทะเล
อยู่บริเวณพระตำหนัก ที่ ร.5 ทรงใช้เป็นท่าขึ้นเทียบเรือหลังจากเสด็จประพาสฝรั่งเศสมาก่อน
เรือนไม้สีเขียวริมทะเล
ในบริเวณใกล้ๆกัน มีเรือนไม้สีเขียวหันหน้าหาทะเล
ที่ตอนนี้ถูกปรับปรุงเป็นร้านกาแฟนั่งชิล
เค้าบอกว่าหาดนี้เป็นหาดที่คนนิยมมาเล่นน้ำกัน
มีเก้าอี้ชายหาดให้นั่งฟรี (แต่ก็ต้องสั่งร้านเค้า)
มีเรือคายักให้เล่น มีอาหารทะเล และเครื่องดื่มเย็นๆ
เป็นศาสนสถานคู่เกาะสีชัง ที่ชาวให้ความเคารพนับถือ
ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ
ต้องเดินขึ้นบันไดไปยังถ้ำท
แล้วจะเห็นวิวเกาะจากมุมสูง
ตอนแรกก็งงๆชื่อ แต่พอไปอ่านประวัติมา
ก็คือไหล่เขาของยอดพระจุลจอ
เป็นสถานที่ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทจำลอง ที่อันเชิญมาจาก พุทธคยา ประเทศอินเดีย
อีกที่นึงที่เป็นจุดชมวิวเก
แต่เราขอนั่งตุ๊กตุ๊กมาดีกว
มีทางเข้ามาชันมาก บางตุ๊กๆก็ขึ้นไม่ได้
มีหรอที่เราจะพลาดทลองานอาห
กุ้ง หอย ปู ปลา เอามาให้ครบค่ะ
แล้วเข้าโรงแรมตอน 5 โมงเย็นมาพูดถึงโรงแรมกันบ้าง
Balcony Seaside ไม่ได้อยู่ในตัวเมืองศรีราช
ออกมาอีกนิดนึงเพื่อความสงบ
และใช้สีโทนอบอุ่น สบายตา
เป็นทั้งโรงแรมและเซอร์วิสอ
ที่เข้ามาทำงานในย่านนิคมอุ
ทำให้ในเมืองมีร้านอาหารญี่
ยังกับไม่ใช่เมืองไทย เค้าเลยเรียกกันว่า ลิตเติ้ลโอซาก้า
พระอาทิตย์ตกดิน
ช่วงเวลาพิเศษของทริปนี้
ก็คือการได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินกับเพื่อนนี่แหละ
ถึงแม้ว่าเราจะชอบเที่ยวคนเดียวมากแค่ไหน
แต่พอมาถึงจุดๆนึงมันจะอิ่มตัว และถวิลหาเพื่อนร่วมทาง
พอถึงอีกจุดนึงอีกที
เราจะอยากกลับไปเอาแต่ใจอีกครั้ง
มันก็วนลูปอย่างนี้แหละ
ชีวิตจะบาลานศ์ความต้องการของตัวเอง
เพื่อให้มีความสุขในทุกๆวัน
อย่างวันนี้ไง
Dinner
เย็นนี้เราเลือกทานอาหารที่นี่ค่ะ
(คือไม่มีรถออกไปไหน 555)
เป็นห้องอาหารชั้น 1 (คืออยู่ที่ชั้น 1)
เรียกว่า “กองข้าว”
เปิดเมนูออกมา มีเซตซาชิมิด้วยจ้าาาาา โดนใจ
อย่างที่บอกว่ามีแต่คนญี่ปุ่นมาอยู่
มื้อนี้เลยได้จัดอาหารญี่ปุ่นให้หายยอยาก
หลังจากเจอหนุ่มยุ่นเดินวนเวียนอยู่แถวนี้ให้น้ำลายสอ
มีทั้งข้าวหน้าปลาไหล ซูชิ แซลมอน ทูน่า เทมปูระ
ซึ่งราคาก็ไม่ได้แพงเกินไปค่ะ
อันนี้เป็นเซอร์วิสของที่นี
เป็นห้องรวม มีแยกหญิง-ชายค่ะ
ตอนเราเข้าไปไม่มีคนพอดี ก็เลยเอากล้องเข้าถ่ายได้
ก่อนจะเข้าไปแช่ ก็เข้าห้องอบซาวน่าก่อนให้เ
หลังจากนั้นก็อาบน้ำ ล้างตัว นั่งตรงตั่งน้อยๆนั่นแหละ เค้ามีสบู่ แชมพูให้
แล้วค่อยลงแช่บ่อน้ำร้อน Onsen แช่จนสบายตัว
ความพีคมันจะอยู่ตรง ออกจากบ่อร้อน ไปตักน้ำเย็นราดตัวปิดท้าย
จะมีความช๊อค เหมือนกุ้งทะเลที่โดนน็อคน้
มันจะชาๆ แปร๊ปๆ เหมือนตัวกำลังจะแตก
แต่มันฟินมากค่ะ 5555
แก้ผ้ากับคนรู้จักกัน นี่เขิลมากกว่าคนแปลกหน้าอี
งั้นเราแช่กันคนละมุมเนอะเจ
Good morning
ตื่นเช้าวันใหม่อย่างสดชื่น
เพราะออนเซนเมื่อวานทำให้นอ
มิน่าหละ คนญี่ปุ่นเค้าถึงชอบนัก
ลงมาทานอาหารเช้ากัน
เซตอาหารที่นี่เว่อวังมากก มีหลายอย่างจนเลือกไม่ถูก
ทั้งข้าวต้มไทย อเมริกันเบรคฟาส กิมจิ เต้าหู้
แต่เราจบมื้อเช้าด้วยสลัดเบ
ที่นี่มีสระว่ายน้ำ มีแยกสระเด็กและสระใหญ่
มีเตียงริมสระที่ชิลมาก ช่วงเช้าๆเตียงจะยังอยู่ในร
คือถ้าจะใช้เซอวิสในโรงแรมใ
ถึงเวลาเช็คเอาท์แล้วออกซ่า
โดยสามารถนั่ง Shuttle Bus (เป็นรถตู้สีดำ) ของโรงแรมไปลงในเมือง
เค้าจะส่งเราที่ Balcony City Lobby
เพื่อรอรถเข้าพัทยาอีกต่อนึ
ข้างในมีแอร์ มีเครื่องดื่มเย็นๆ ครบมาก
ถึงแล้วกดไปที่ชั้น 7 ก็ขึ้นไปลุยได้เลย
ในห้างฮาร์เบอร์พัทยา จะมีโซนมหาสนุก 3 โซนที่เราเล่นได้
คือ เครื่องเล่น Harnor Land / ปีนผาที่ Deep Climbing Gym / กระโดดแแทรมโพลีนที่ Jump XL
ซึงเค้ามีโปรโมชั่น ซื้อ 1 ใบแต่เล่นได้ทั้งหมดเลย และไม่จำกัดเวลา
นี่เราก็อยู่นี่ยาวๆเลยจ้าาา
ในโซนเครื่องเล่นฮาร์เบอร์แลนด์เนี่ย
จุดขายเค้าอยู่ตรงเป็นสวนสนุกในร่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
ซึ่งมันก็ใหญ่จริงๆ
ผู้ใหญ่ก็เล่นได้ ไม่ใช่เฉพาะเด็ก
เพราะมีสไลด์เด้อแบบโคตรหวาดเสียว
ชันแบบ 90 องศาเลยมั้งเนี้ย
อีกโซนนึงคือโซนปีนผาจำลอง
นี่ตั้งใจมาก ว่าจะมาปีนผาครั้งแรก
ไม่ยากอย่างที่คิด แถมสนุกกว่าที่คิดอีก
ด้านหน้ามีอุปกรณ์ให้เช่าครบ
มาถึงปุ๊ปปีนขึ้นไปบนสุดเลยจ้าาาาา ซ่ามาก ขึ้นได้ลงไม่ได้
ไม่กล้าปล่อยตัวลงมา ใครกลัวความสูง คือที่นี่สูงมากกกก แค่ไม่ต้องมองลงก็พอ 555
จะบอกว่า มีดีต่อร่างกายเราจริงๆ ใช้กล้ามเนื้อเกือบทุกส่วนเลย
อีกโซนนึงเป็น ที่เล่นแทรมโพลีนที่ใหญ่มากๆ
จริงๆเราก็เพิ่งรู้ว่ามันมีท่าเล่นและเทคนิคมากมาย
ไอ่เราก็โดนดึ๋งๆอย่างเดียว ก็กินเวลาไปเยอะแล้ว ยังไม่ได้ท่าอะไรเลย
เราสามารถให้สต๊าฟคุมเครื่องเล่นเข้ามาสอนเราก็ได้
โปรๆกันทั้งนั้น
คือไม่มีรถก็ใช้บริการของโรงแรมให้หมดเลย
ทั้งออนเซน(อันนี้ชอบมาก) ทั้งฮาเบอร์แลนด์ ทั้งใกล้เกาะสีชัง
เป็นการพักผ่อนที่สนุกกว่าที่คิด
ยังไงลองก๊อปแพลนเราได้เลย
เที่ยวง่ายๆ เล่นสนุก อยู่สบาย 2 วัน 1 คืน ที่ศรีราชาวันนี้ไปแระจ้า